อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวแคบในวันนี้ หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้คำมั่นว่า เฟดจะไม่เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ณ เวลา 23.45 น.ตามเวลาไทย อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ขยับขึ้นสู่ระดับ 1.49% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 2.121%
ราคาพันธบัตร และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะปรับตัวในทิศทางตรงกันข้ามกัน
นายพาวเวลแถลงต่อคณะอนุกรรมการว่าด้วยวิกฤตการณ์โควิด-19 ประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐว่า เฟดมีความมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนตลาดแรงงานให้ฟื้นตัวเป็นวงกว้าง และเฟดจะไม่ใช้ความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อเป็นแรงผลักดันให้ต้องเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วเกินไป
"ตัวเลขเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นเมื่อเร็วๆนี้ไม่ได้บ่งชี้ว่าเฟดจำเป็นต้องเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากเรามองว่าการดีดตัวของเงินเฟ้อเป็นผลกระทบโดยตรงที่เกิดจากการเปิดเศรษฐกิจของสหรัฐ เราจะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก่อนเวลาอันควรเพียงเพราะความกังวลเรื่องเงินเฟ้อเพียงปัจจัยเดียว แต่เราจะรอให้มีหลักฐานชัดเจนเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดจากเงินเฟ้อหรือภาวะไร้สมดุลในด้านอื่นๆ ก่อนที่จะตัดสินใจใดๆเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ย" นายพาวเวลกล่าว
ขณะเดียวกัน นักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟดอีกหลายรายในสัปดาห์นี้เกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ หลังจากที่นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ กล่าวว่า เฟดอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในปีหน้าเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ
นางแมรี ดาลี ประธานเฟด สาขาซานฟรานซิสโก กล่าววานนี้ว่า เฟดอาจปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ภายในปลายปีนี้ หรือต้นปีหน้า
"ดิฉันมีความเชื่อมั่นในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดยเฟดอาจบรรลุเป้าหมายการจ้างงานเต็มศักยภาพ และอัตราเงินเฟ้อแตะระดับ 2% ในเวลาอีกไม่นาน ซึ่งจะทำให้เฟดสามารถลดวงเงิน QE จากระดับ 1.2 แสนล้านดอลลาร์ โดยเราอาจบรรลุเป้าในปลายปีนี้ หรือต้นปีหน้า" นางดาลีกล่าว
นายพาวเวลเปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า กรรมการเฟดจะหารือกันในเดือนหน้าเกี่ยวกับกำหนดเวลาและวงเงิน QE ที่จะมีการปรับลดลง
ความเห็นของนางดาลีสอดคล้องกับนายพาวเวลและกรรมการเฟดรายอื่นที่ว่า เศรษฐกิจสหรัฐกำลังใกล้เข้าสู่ภาวะที่ไม่จำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากเฟด