อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวลงในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และวิกฤตการณ์ในยูเครน
ณ เวลา 00.09 น.ตามเวลาไทย อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ร่วงลงสู่ระดับ 2.042% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี ปรับตัวลงสู่ระดับ 2.359%
ราคาพันธบัตร และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะปรับตัวในทิศทางตรงกันข้ามกัน
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยรายงานการประชุมนโยบายการเงินของเฟดประจำเดือนม.ค.ในวันนี้ ซึ่งจะบ่งชี้ทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด
ทั้งนี้ โกลด์แมน แซคส์, ซิตี้กรุ๊ป และแบงก์ ออฟ อเมริกาคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 7 ครั้งในปีนี้ โดยปรับขึ้นครั้งละ 0.25% ซึ่งจะส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยของเฟดพุ่งแตะ 1.75-2.00% ในปลายปีนี้ จากปัจจุบันที่ระดับ 0.00-0.25%
หากเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามที่มีการคาดการณ์ไว้ บ่งชี้ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมทั้ง 7 ครั้งที่เหลือในปีนี้ โดยเริ่มตั้งแต่เดือนมี.ค.
องค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) เปิดเผยในวันนี้ว่า รัสเซียยังคงเสริมกำลังทหารตามชายแดนยูเครน แม้มีรายงานว่ารัสเซียได้ถอนกำลังทหารบางส่วนจากบริเวณดังกล่าว
"เรายังไม่เห็นการถอนกำลังทหารของรัสเซีย ซึ่งสิ่งนี้ขัดแย้งกับความพยายามทางการทูตที่จะคลี่คลายวิกฤตการณ์ สิ่งที่เราเห็นก็คือพวกเขาได้เพิ่มจำนวนทหาร ซึ่งทำให้ความตึงเครียดยังไม่ได้ลดน้อยลง" นายเยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการนาโต กล่าว
นายสโตลเทนเบิร์กระบุว่า ที่ผ่านมา รัสเซียมักมีการเคลื่อนย้ายกำลังพลและยุทโธปกรณ์ในช่วงการเสริมกำลังทหาร
"การเคลื่อนย้ายทหารและรถถัง ไม่ได้ยืนยันว่ามีการถอนกำลังทหารจริง" นายสโตลเทนเบิร์กกล่าว
ทางด้านประธานาธิบดีโจ ไบเดนกล่าวเตือนเช่นกันว่า รัสเซียยังคงมีกำลังทหารมากกว่า 150,000 นายใกล้ชายแดนยูเครน