อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีดีดตัวขึ้นใกล้แตะระดับ 3% ในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนพากันขายพันธบัตรในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขยอดค้าปลีกที่แข็งแกร่ง
ณ เวลา 22.40 น.ตามเวลาไทย อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ดีดตัวสู่ระดับ 2.962% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 3.158%
ราคาพันธบัตร และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะปรับตัวในทิศทางตรงกันข้ามกัน
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 0.9% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายเดือน สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ปรับตัวเลขยอดค้าปลีกในเดือนมี.ค. เป็นพุ่งขึ้น 1.4% จากเดิมที่รายงานว่าเพิ่มขึ้น 0.7%
เมื่อเทียบรายปี ยอดค้าปลีกพุ่งขึ้น 8.2% ในเดือนเม.ย.
ยอดค้าปลีกได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันและอาหาร
ส่วนยอดค้าปลีกพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมยอดขายรถยนต์ น้ำมัน วัสดุก่อสร้าง และอาหาร เพิ่มขึ้น 1.0% ในเดือนเม.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 0.4% หลังจากเพิ่มขึ้น 1.1% ในเดือนมี.ค.
ตลาดจับตาถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในคืนนี้ ซึ่งอาจส่งสัญญาณทิศทางอัตราดอกเบี้ยและการปรับลดขนาดงบดุล (Quantitative Tightening : QT)
ทั้งนี้ นายพาวเวลมีกำหนดกล่าวสุนทรพจน์ในงานสัมมนา Future of Everything Festival ซึ่งจัดขึ้นโดยหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล ในวันนี้เวลา 14.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือคืนนี้เวลา 01.00 น.ตามเวลาไทย
นอกจากนี้ นางคริสติน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) และนายโจน คันลิฟฟ์ รองผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) มีกำหนดกล่าวสุนทรพจน์ในงานสัมมนาดังกล่าวเช่นกัน
ทั้งนี้ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า ขณะนี้นักลงทุนให้น้ำหนัก 100% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 0.50% ในการประชุมนโยบายการเงินอีก 2 ครั้ง ทั้งในเดือนมิ.ย.และก.ค. หลังจากที่เฟดเพิ่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในเดือนพ.ค. เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพ.ค.2543 และเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่ที่สุดในรอบกว่า 20 ปี
ขณะเดียวกัน เฟดเตรียมทำ QT โดยจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนมิ.ย. ซึ่งเฟดจะลดขนาดงบดุลในวงเงิน 4.75 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน และหลังจากนั้น 3 เดือน เฟดจะเพิ่มการลดขนาดงบดุลเป็น 9.5 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน