อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวลงในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะชะลอความแรงในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจนถึงสิ้นปีนี้ ก่อนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.ปีหน้า
อย่างไรก็ดี ตลาดพันธบัตรสหรัฐยังคงเกิดภาวะ inverted yield curve ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปีปรับตัวเหนือระดับ 2.9% และสูงกว่าอายุ 5 ปี และ 10 ปี ท่ามกลางความกังวลที่ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะเผชิญภาวะถดถอยจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด
ณ เวลา 00.55 น.ตามเวลาไทย อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 2 ปี อยู่ที่ระดับ 2.905% โดยสูงกว่าพันธบัตรอายุ 5 ปี ซึ่งอยู่ที่ระดับ 2.669% ขณะที่พันธบัตรอายุ 10 ปี อยู่ที่ระดับ 2.609%
สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐร่วงลงสู่ระดับ 52.8 ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี หรือนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2563 แต่สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 52.0 จากระดับ 53.0 ในเดือนมิ.ย.
ดัชนีภาคการผลิตได้รับผลกระทบจากการหดตัวของคำสั่งซื้อใหม่ ซึ่งเป็นการหดตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 ขณะที่การจ้างงานหดตัวลงเป็นเดือนที่ 3
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างดิ่งลง 1.1% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าเพิ่มขึ้น 0.1% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนพ.ค.
นักลงทุนคาดการณ์ว่า เฟดมีแนวโน้มชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินอีก 3 ครั้งที่เหลือในปีนี้ ก่อนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.ปีหน้า
ทั้งนี้ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 68.5% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมวันที่ 20-21 ก.ย. และให้น้ำหนัก 63.3% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมวันที่ 1-2 พ.ย. และให้น้ำหนัก 49.50% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมวันที่ 13-14 ธ.ค.
นอกจากนี้ นักลงทุนให้น้ำหนัก 46.5% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 31 ม.ค.-1 ก.พ.2566
ส่วนในการประชุมวันที่ 14-15 มี.ค.2566 นักลงทุนให้น้ำหนัก 33.1% ที่เฟดจะลดอัตราดอกเบี้ย 0.25%