ความต้องการซื้อพันธบัตรทั่วโลกที่เป็นไปอย่างคึกคักในช่วงต้นปี 2566 ช่วยให้รัฐบาลและบริษัทต่าง ๆ ทั่วโลกสามารถระดมเงินทุนได้มากถึง 5.86 แสนล้านดอลลาร์
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ธนาคารพาณิชย์ในยุโรป รวมทั้งบริษัทเอกชนในเอเชีย และรัฐบาลของประเทศต่าง ๆ ในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา ต่างพากันออกพันธบัตรใหม่เพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยได้แรงหนุนจากภาวะการซื้อขายที่คึกคักในตลาดพันธบัตรโลก โดยนับตั้งแต่ต้นปี 2566 ยอดขายพันธบัตรทั่วโลกพุ่งขึ้นถึง 4.1% ซึ่งเป็นสถิติที่ดีที่สุดนับตั้งแต่ปี 2542
รายงานระบุว่า การที่ภาครัฐและเอกชนทั่วโลกต่างมองหาช่องทางที่จะระดมเงินทุนใหม่ ๆ นั้นเกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับที่นักลงทุนเองก็ต้องการซื้อพันธบัตรและตราสารหนี้ ท่ามกลางสัญญาณบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อเริ่มชะลอตัวลงและธนาคารกลางในหลายประเทศจะระงับการใช้นโยบายคุมเข้มการเงินเชิงรุก
ในหลายประเทศนั้น สินทรัพย์ประเภทตราสารหนี้ (fixed-income assets) มีแนวโน้มที่จะสามารถสร้างแรงดึงดูดเพิ่มขึ้นในปีนี้ หลังจากในปีที่ผ่านมา กระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกได้ส่งผลให้นักลงทุนแห่เทขายพันธบัตรและทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรพุ่งแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2551 โดยราคาพันธบัตรและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะปรับตัวในทิศทางตรงข้ามกัน