อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวลงในวันนี้ หลังจากดีดตัวขึ้นในช่วงแรก
ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ซึ่งมีความอ่อนไหวต่อนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ร่วงหลุดระดับ 4.8% หลังพุ่งทะลุระดับดังกล่าวในช่วงแรก แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.2550
ณ เวลา 21.20 น.ตามเวลาไทย อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 2 ปี อยู่ที่ระดับ 4.795% หลังจากพุ่งแตะระดับ 4.830% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี อยู่ที่ระดับ 3.930% ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี อยู่ที่ระดับ 3.943%
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 2 ปี พุ่งขึ้นมากกว่า 0.70% ในเดือนนี้ ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี ดีดตัวขึ้นมากกว่า 0.50%
นักวิเคราะห์จาก NatWest Markets คาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในวันที่ 21-22 มี.ค. หลังการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ที่พุ่งขึ้นเกินคาด ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด
"ขณะนี้เราเชื่อว่าเฟดมีโอกาสปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในเดือนมี.ค.มากกว่าที่จะปรับขึ้น 0.25% โดยเรามองว่าเฟดมีโอกาส 60% ที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมดังกล่าว" นายเควิน คัมมิ่นส์ หัวหน้านักวิเคราะห์ของ NatWest Markets กล่าว
นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแรงกว่าคาดเพื่อสกัดเงินเฟ้อ หลังการเปิดเผยดัชนี PCE ที่พุ่งขึ้นเกินคาดเป็นการตอกย้ำว่าเงินเฟ้อยังไม่ผ่านจุดสูงสุด หลังจากที่ก่อนหน้านี้สหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ที่สูงกว่าคาดเช่นกัน
ทั้งนี้ ดัชนี PCE ถือเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนี CPI