สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า การขาดทุนจากการลงทุนที่ทำให้ธนาคารซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (SVB) ล่มสลายลงนั้น นับเป็นความวิตกในระบบการเงินของสหรัฐ โดยในปีที่ผ่านมา ภาคธนาคารของสหรัฐมีการขาดทุนทางบัญชี (unrealized losses) ถึง 6.20 แสนล้านดอลลาร์จากการลงทุนในพันธบัตรซึ่งให้ผลตอบแทนต่ำ
ธนาคารส่วนใหญ่สามารถที่จะรับมือกับปัญหาการขาดทุนทางบัญชีที่เกิดจากการลงทุนในพันธบัตรที่ให้ผลตอบแทนต่ำได้ โดยการลงทุนในพันธบัตรนั้นคิดเป็นสัดส่วนน้อยกว่า 25% ของสินทรัพย์ทั้งหมด 23.6 ล้านล้านดอลลาร์ของระบบธนาคารสหรัฐในเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ธนาคารส่วนใหญ่นั้นก็แตกต่างจาก SVB ตรงที่มีลูกค้าที่หลากหลายประเภท และไม่มีแนวโน้มที่จำเป็นจะต้องถอนเงินฝากในเวลาเดียวกัน ซึ่งก็หมายความว่า ธนาคารสหรัฐยังสามารถพึ่งพาแหล่งเงินทุนอื่น ๆ โดยไม่มีแนวโน้มที่จะเผชิญกับภาวะขาดเงินสดอย่างกะทันหัน
สำหรับธนาคารขนาดใหญ่ที่สุดนั้น ยิ่งจะมีความเสี่ยงน้อยลงไปอีก โดยธนาคารเหล่านี้ถูกมองว่าใหญ่เกินกว่าจะปล่อยให้ล้ม ยิ่งไปกว่านั้น การทะยานขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ในตลาดพันธบัตรสหรัฐ ซึ่งเกิดจากความวิตกเกี่ยวกับสภาวะของอุตสาหกรรมธนาคารนั้น กำลังช่วยลดการขาดทุนทางบัญชีที่ระดับ 6.20 แสนล้านดอลลาร์ดังกล่าว
ทั้งนี้ ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ธนาคารต่าง ๆ ของสหรัฐจะเริ่มรายงานข้อมูลการเงินประจำไตรมาสแรกของปีนี้