อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ซึ่งมีความอ่อนไหวต่อนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) พุ่งขึ้นทะลุระดับ 5% แตะระดับสูงสุดในรอบ 16 ปี ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี ดีดตัวทะลุระดับ 4% หลังภาคเอกชนสหรัฐมีการจ้างงานที่แข็งแกร่ง ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด
ณ เวลา 21.06 น.ตามเวลาไทย อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 2 ปี อยู่ที่ระดับ 5.059% หลังจากพุ่งแตะระดับ 5.120% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 15 มิ.ย.2550 ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี อยู่ที่ระดับ 4.039% ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี อยู่ที่ระดับ 3.985%
ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐพุ่งขึ้น 497,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 220,000 ตำแหน่ง หลังจากเพิ่มขึ้น 267,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค.
การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐที่พุ่งขึ้นเกือบ 500,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. ถือเป็นการจ้างงานที่เพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบเกือบ 1 ปี หรือนับตั้งแต่เดือนก.ค.2565
ทั้งนี้ ภาคบริการมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 373,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. ขณะที่ภาคการผลิตมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 124,000 ตำแหน่ง
นักลงทุนเทน้ำหนักมากกว่า 90% ในการคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้ หลังภาคเอกชนสหรัฐมีการจ้างงานที่แข็งแกร่งในเดือนมิ.ย.
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 96.1% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 25-26 ก.ค. และให้น้ำหนักเพียง 3.9% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.00-5.25%
เฟดเปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนมิ.ย.วานนี้ โดยระบุว่า กรรมการเฟดส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าเฟดอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกมากกว่า 1 ครั้งในปีนี้ หลังจากที่เฟดตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิ.ย.
ในการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (dot plot) เจ้าหน้าที่เฟดส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% อีก 2 ครั้ง สู่ระดับ 5.6% ซึ่งจะทำให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดอยู่ในกรอบ 5.50-5.75% ภายในสิ้นปีนี้
กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนมิ.ย.ในวันพรุ่งนี้
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานเพิ่มขึ้น 225,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. จากระดับ 339,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค.
นอกจากนี้ คาดว่าอัตราว่างงานปรับตัวลงสู่ระดับ 3.6% ในเดือนมิ.ย. จากระดับ 3.7% ในเดือนพ.ค.