อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 16 ปีในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนคาดว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะคงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงนานกว่าที่คาดไว้เพื่อสกัดเงินเฟ้อ
ณ เวลา 00.41 น.ตามเวลาไทย อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี อยู่ที่ระดับ 4.34% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2550 ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี อยู่ที่ระดับ 4.46%
ส่วนข้อมูลจาก Mortgage News Daily ระบุว่า อัตราดอกเบี้ยเงินกู้เฉลี่ยของสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยของสหรัฐได้พุ่งขึ้นใกล้ 7.5% แตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 20 ปี
ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยเงินกู้เฉลี่ยเพื่อการจำนองแบบคงที่ระยะเวลา 30 ปี สำหรับวงเงินกู้ไม่เกิน 726,200 ดอลลาร์ ดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 7.48% ในสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2543
อัตราดอกเบี้ยเงินกู้เฉลี่ยเพื่อการจำนองได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปรับตัวตามอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ซึ่งเป็นอัตราอ้างอิงสำหรับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนอง ขณะที่เฟดส่งสัญญาณเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
นักลงทุนจับตาการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในสัปดาห์นี้
เฟดออกแถลงการณ์ยืนยันว่า นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด จะเข้าร่วมการประชุมดังกล่าว โดยนายพาวเวลจะกล่าวสุนทรพจน์ในวันศุกร์ที่ 25 ส.ค. เวลา 10.05 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือ 21.05 น.ตามเวลาไทย
ทั้งนี้ การประชุมที่เมืองแจ็กสัน โฮลในปีนี้จะมีขึ้นในวันที่ 24-26 ส.ค. ในหัวข้อ "Structural Shifts in the Global Economy"
การประชุมประจำปีดังกล่าวได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก โดยผู้ว่าการธนาคารกลาง รัฐมนตรีคลัง นักวิชาการ และผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน จากประเทศต่างๆทั่วโลก จะเดินทางเข้าร่วมการประชุม ขณะที่ไฮไลท์จะอยู่ที่การกล่าวปาฐกถาของประธานเฟดในขณะนั้นเพื่อแสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับนโยบายการเงิน และแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ
นักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของนายพาวเวลเพื่อหาสัญญาณเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ หลังเงินเฟ้อเริ่มมีแนวโน้มชะลอตัวลง
โกลด์แมน แซคส์ออกรายงานระบุว่า เฟดได้ยุติวงจรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้ว แม้ว่านายพาวเวลไม่ได้กล่าวอย่างชัดเจนในการแถลงข่าวหลังการประชุมเฟดเมื่อวันที่ 26 ก.ค.
"เราคาดว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในวันที่ 26 ก.ค.ถือเป็นการปรับขึ้นครั้งสุดท้ายสำหรับวัฏจักรปัจจุบัน และเราคาดว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย. โดยเฟดจะสรุปในเดือนพ.ย.ว่าเงินเฟ้อได้ชะลอตัวลงอย่างเพียงพอจนทำให้เฟดไม่มีความจำเป็นที่จะต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกต่อไป" รายงานระบุ
นักลงทุนคาดการณ์เช่นเดียวกันว่า เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย. และในช่วงที่เหลือของปีนี้ ก่อนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปี 2567
ด้านนายพาวเวลกล่าวในการแถลงข่าวเมื่อวันที่ 26 ก.ค.ว่า เฟดไม่มีการกำหนดทิศทางนโยบายการเงินไว้ล่วงหน้า โดยจะทำการตัดสินใจในการประชุมเป็นรายครั้ง ซึ่งจะพิจารณาจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในขณะนั้น
"มีความเป็นไปได้ที่เราอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย. หากข้อมูลเศรษฐกิจในช่วงเวลาดังกล่าวสนับสนุนให้เราดำเนินการเช่นนั้น แต่ก็มีความเป็นไปได้เช่นเดียวกันที่เราอาจคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย. หากการดำเนินการดังกล่าวสอดคล้องกับจุดยืนด้านนโยบายของเรา" นายพาวเวลกล่าว