อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ซึ่งมีความอ่อนไหวต่อนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) พุ่งขึ้นทะลุระดับ 5% ในวันนี้ ท่ามกลางการคาดการณ์ที่ว่า การพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันจะเป็นปัจจัยหนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
ณ เวลา 22.20 น.ตามเวลาไทย อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 2 ปี อยู่ที่ระดับ 5.033% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี อยู่ที่ระดับ 4.296% และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี อยู่ที่ระดับ 4.370%
นายโมฮาเหม็ด เอล-เอเรียน นักเศรษฐศาสตร์จากอลิอันซ์ กล่าวว่า การพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันจะหนุนให้อัตราเงินเฟ้อดีดตัวขึ้น และเมื่อพิจารณาร่วมกับเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่งกว่าที่คาดไว้ สิ่งนี้จะมีผลกระทบต่อการตัดสินใจด้านอัตราดอกเบี้ยของเฟด
"เฟดจะไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้ แต่จะเปิดกว้างสำหรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคต" นายเอล-เอเรียนกล่าวต่อสำนักข่าว CNBC
ราคาน้ำมัน WTI ปิดพุ่งขึ้นวานนี้แตะระดับสูงสุดในรอบ 10 เดือน ขานรับข่าวซาอุดีอาระเบียและรัสเซียประกาศขยายเวลาการปรับลดอุปทานน้ำมันโดยสมัครใจจนถึงสิ้นปี 2566
ทั้งนี้ ซาอุดีอาระเบียประกาศขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันโดยสมัครใจจำนวน 1 ล้านบาร์เรล/วันจนถึงสิ้นปีนี้ ขณะที่รัสเซียขยายเวลาปรับลดการส่งออกน้ำมันสู่ระดับ 300,000 บาร์เรล/วันจนถึงสิ้นปีนี้เช่นกัน
ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนตา เปิดเผยว่า แบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุดแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 5.6% ในไตรมาส 3/2566 หลังจากมีการขยายตัว 2.0% และ 2.1% ในไตรมาส 1 และ 2 ตามลำดับ
ตลาดจับตาการเปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book จากเฟดในคืนนี้ ซึ่งจะบ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ
ทั้งนี้ Beige Book เป็นรายงานซึ่งจะมีการเปิดเผยก่อนการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) เป็นเวลา 2 สัปดาห์ โดยเป็นการประเมินภาวะเศรษฐกิจจากเจ้าหน้าที่เฟดซึ่งประจำอยู่ใน 12 เขตของสหรัฐ
นอกจากนี้ Beige Book เป็นรายงานที่มีการรวบรวมข้อมูลจากมุมมองของผู้นำธุรกิจ รวมทั้งนักเศรษฐศาสตร์และนายธนาคารในภูมิภาค ทำให้ Beige Book สามารถสะท้อนภาวะเศรษฐกิจสหรัฐในวงกว้าง