อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีดีดตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดพุ่งขึ้นเหนือระดับ 4.1% หลังสหรัฐเปิดเผยดัชนีภาคบริการที่แข็งแกร่งเกินคาด ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตรึงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงยาวนานกว่าที่คาดไว้
ณ เวลา 00.04 น.ตามเวลาไทย อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี อยู่ที่ระดับ 4.162% ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี อยู่ที่ระดับ 4.347%
นักลงทุนพากันปรับลดน้ำหนักต่อคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนพ.ค. ขณะที่เพิ่มน้ำหนักต่อการคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในเดือนดังกล่าว หลังสหรัฐเปิดเผยดัชนีภาคบริการที่แข็งแกร่ง
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 52.5% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมเดือนพ.ค. หลังจากที่ให้น้ำหนัก 59.9% เมื่อวานนี้
ขณะเดียวกัน นักลงทุนให้น้ำหนัก 39.7% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมเดือนพ.ค. หลังจากที่ให้น้ำหนักเพียง 26.8% เมื่อวานนี้
สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 53.4 ในเดือนม.ค. จากระดับ 50.5 ในเดือนธ.ค. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 52.0
ดัชนี ISM ได้รับแรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของการจ้างงานและคำสั่งซื้อใหม่ ขณะที่ภาคธุรกิจมีความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ
ดัชนียังคงอยู่สูงกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ว่าภาคบริการของสหรัฐยังคงมีการขยายตัว โดยขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 13
นอกจากนี้ นักลงทุนลดน้ำหนักต่อคาดการณ์เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนพ.ค. หลังนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด กล่าวย้ำว่าเฟดจะยังไม่รีบปรับลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคตอันใกล้
ทั้งนี้ นายพาวเวลกล่าวให้สัมภาษณ์ในรายการ "60 Minutes" ของสถานีโทรทัศน์ซีบีเอสว่า เฟดจะดำเนินการอย่างระมัดระวังในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ และมีแนวโน้มที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยล่าช้ากว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้
ถ้อยแถลงดังกล่าวมีขึ้น หลังจากนายพาวเวลส่งสัญญาณหลังการประชุมเฟดเมื่อวันที่ 31 ม.ค.ว่า เฟดจะยังไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมี.ค. เนื่องจากเฟดยังไม่มั่นใจต่อทิศทางเงินเฟ้อของสหรัฐ