อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีร่วงลงหลุดระดับ 4.3% หลังรายงานการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) บ่งชี้ว่าเฟดจะยังคงเดินหน้าปรับลดอัตราดอกเบี้ย
เวลา 19.17 น.ตามเวลาไทย อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี อยู่ที่ระดับ 4.265% ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี อยู่ที่ระดับ 4.452%
ทั้งนี้ เฟดเปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 6-7 พ.ย.ของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ระบุว่า เจ้าหน้าที่เฟดมีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับการชะลอตัวของเงินเฟ้อ และเฟดจะยังคงปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป
นอกจากนี้ การปรับตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐยังได้ปัจจัยหนุนจากการที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ เสนอชื่อนายสก็อตต์ เบสเซนต์ ผู้ก่อตั้งกองทุนเฮดจ์ฟันด์ "คีย์สแควร์ กรุ๊ป" ให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีคลังคนใหม่ของสหรัฐ ซึ่งทำให้นักลงทุนคลายความวิตก โดยเชื่อว่านายเบสเซนต์จะทำให้ตลาดมีเสถียรภาพมากขึ้น
นักลงทุนจับตาตัวเลขเศรษฐกิจจำนวนมากที่จะมีการเปิดเผยในวันนี้ ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน, ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3/2567 และยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (Pending Home Sales)
ขณะเดียวกัน นักลงทุนจับตาดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ที่จะมีการเปิดเผยในวันนี้ โดยดัชนี PCE เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐให้ความสำคัญ เนื่องจากสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนี PCE ทั่วไป (Headline PCE) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 2.3% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายปี หลังจากปรับตัวขึ้น 2.1% ในเดือนก.ย.
เมื่อเทียบรายเดือน คาดว่าดัชนี PCE ทั่วไป ปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือนต.ค. หลังจากปรับตัวขึ้น 0.2% เช่นกันในเดือนก.ย.
ส่วนดัชนี PCE พื้นฐาน (Core PCE) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน คาดว่าปรับตัวขึ้น 2.8% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายปี จากระดับ 2.7% ในเดือนก.ย.
เมื่อเทียบรายเดือน คาดว่าดัชนี PCE พื้นฐานปรับตัวขึ้น 0.3% ในเดือนต.ค. หลังจากปรับตัวขึ้น 0.3% เช่นกันในเดือนก.ย.