อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีดีดตัวขึ้นเหนือระดับ 4.2% ขณะที่นักลงทุนพากันขายพันธบัตรในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย หลังคลายความกังวลเกี่ยวกับการทำสงครามการค้าของสหรัฐ ขณะที่สหรัฐส่งสัญญาณพร้อมเจรจากับประเทศคู่ค้าเกี่ยวกับมาตรการเรียกเก็บภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
ณ เวลา 20.13 น.ตามเวลาไทย อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี อยู่ที่ระดับ 4.233% ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี อยู่ที่ระดับ 4.654%
ทั้งนี้ ราคาพันธบัตรและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะปรับตัวในทิศทางตรงกันข้ามกัน
นายสก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐ เปิดเผยว่า นับตั้งแต่ที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศมาตรการเรียกเก็บภาษีศุลกากรครั้งใหญ่เมื่อวันที่ 2 เม.ย. ขณะนี้รัฐบาลเกือบ 70 ประเทศได้ติดต่อเข้ามาเพื่อขอเจรจาทางการค้ากับสหรัฐ ซึ่งสหรัฐก็เปิดกว้างสำหรับการเจรจากับชาติต่าง ๆ
นายเบสเซนต์กล่าวว่า การเจรจากับประเทศคู่ค้าดังกล่าวอาจต้องใช้เวลานานหลายเดือน
"ขณะนี้เกือบ 70 ประเทศได้ติดต่อทำเนียบขาวเพื่อขอเจรจาเกี่ยวกับภาษีศุลกากร ซึ่งจะทำให้เดือนเมษายน พฤษภาคม หรืออาจรวมถึงเดือนมิถุนายนเป็นเดือนที่เรายุ่งมาก"
"ถ้าพวกเขามาที่โต๊ะเจรจาด้วยข้อเสนอที่น่าสนใจ ผมคิดว่าเราจะสามารถปิดการเจรจาด้วยข้อตกลงที่ดีได้" นายเบสเซนต์กล่าวต่อสำนักข่าว Fox
ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์ประกาศใช้มาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ (reciprocal tariff) และภาษีศุลกากรพื้นฐาน (baseline tariff) เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยภาษีศุลกากรตอบโต้จะแตกต่างกันไปเป็นรายประเทศ นับตั้งแต่ 10-49% โดยขึ้นอยู่กับการตั้งกำแพงภาษีและมาตรการที่ไม่ใช่ภาษีของประเทศต่าง ๆ ที่มีต่อสินค้านำเข้าจากสหรัฐ และจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 9 เม.ย. ส่วนภาษีศุลกากรพื้นฐานอยู่ที่ระดับ 10% เท่ากันทุกประเทศ และมีผลบังคับใช้ในวันที่ 5 เม.ย.
นอกจากนี้ นายเบสเซนต์กล่าวว่า จีนกำลังทำผิดพลาดครั้งใหญ่ด้วยการคิดตอบโต้สหรัฐ ขณะที่จีนเป็นฝ่ายเสียเปรียบในการทำสงครามการค้ากับสหรัฐ
"ผมคิดว่าการตอบโต้ของจีนถือเป็นการทำผิดพลาดครั้งใหญ่ เพราะพวกเขากำลังถือไพ่ 2 ใบในมือที่มีแค่ใบละ 2 แต้ม"
"เราจะเสียหายอะไรจากการที่จีนขึ้นภาษีศุลกากรกับเรา เพราะเราส่งออกไปยังจีนเพียง 1 ใน 5 เมื่อเทียบกับที่พวกเขาส่งออกมายังเรา ดังนั้นพวกเขากำลังเล่นไพ่ในเกมที่จะถูกกินรวบ" นายเบสเซนต์กล่าวต่อสำนักข่าว CNBC
ทั้งนี้ จีนประกาศเรียกเก็บภาษี 34% ต่อสินค้านำเข้าทั้งหมดที่มาจากสหรัฐ โดยเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 10 เม.ย.เพื่อตอบโต้ต่อการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เรียกเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้ (reciprocal tariff) ในอัตรา 34% ต่อสินค้าที่นำเข้าจากจีน ซึ่งเมื่อรวมกับมาตรการเรียกเก็บภาษีที่สหรัฐบังคับใช้กับจีนที่ระดับ 20% จะทำให้จีนต้องเผชิญกับอัตราภาษีรวมจากสหรัฐสูงถึง 54%
นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ให้เวลารัฐบาลจีนจนถึงวันนี้ (8 เม.ย.) ในการยกเลิกมาตรการเรียกเก็บภาษี 34% ดังกล่าวต่อสินค้านำเข้าจากสหรัฐ มิฉะนั้นจีนจะถูกสหรัฐเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติมอีก 50% ซึ่งจะทำให้จีนถูกเรียกเก็บภาษีรวมจากสหรัฐสูงถึง 104%
อย่างไรก็ดี ล่าสุดจีนยืนยันว่าจะต่อสู้จนถึงที่สุด และจีนจะไม่ยกเลิกการเรียกเก็บภาษี 34% ต่อสินค้านำเข้าจากสหรัฐแต่อย่างใด