เอสแอนด์พี โกลบอล เรทติ้งส์ (S&P Global Ratings) เตือนว่า อันดับความน่าเชื่อถือ AAA ออสเตรเลียอาจตกอยู่ในความเสี่ยงหากคำมั่นสัญญาในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งส่งผลให้ออสเตรเลียเผชิญกับการขาดดุลโครงสร้าง หนี้สินและต้นทุนดอกเบี้ยปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งเป็นการเน้นย้ำถึงแรงกดดันด้านการคลังที่รัฐบาลชุดต่อไปของออสเตรเลียต้องเผชิญ
ออสเตรเลียเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศของโลกที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ AAA จากทั้งสามสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือซึ่งได้แก่ S&P, ฟิทช์ เรทติ้งส์ (Fitch Ratings) และมูดี้ส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส (Moody's Investors Service)
ทั้งนี้ ในระหว่างรณรงค์หาเสียงก่อนการเลือกตั้งวันเสาร์นี้ (3 พ.ค.) พรรคการเมืองหลักของออสเตรเลียต่างให้คำมั่นว่าจะใช้จ่ายด้านการคลังจำนวนมาก ตั้งแต่การจัดสรรเงินหลายพันล้านดอลลาร์เพื่อสร้างบ้านใหม่สำหรับผู้ซื้อบ้านครั้งแรก ไปจนถึงการลดภาษีและเพิ่มค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพ
นักวิเคราะห์ของ S&P กล่าวในวันนี้ว่า งบประมาณของออสเตรเลียกำลังถดถอยลงสู่ภาวะขาดดุลปานกลาง เนื่องจากการใช้จ่ายภาครัฐพุ่งขึ้นแตะระดับสูงเหมือนกับที่เคยเกิดขึ้นในยุคหลังสงคราม รวมทั้งสาเหตุที่เกิดจากเศรษฐกิจที่เติบโตในอัตราที่ชะลอลง และความเครียดทางการค้าทั่วโลกที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น
S&P ระบุว่า แนวทางที่รัฐบาลชุดใหม่จะจัดสรรงบประมาณเพื่อให้เป็นไปตามที่ให้คำมั่นสัญญากับประชาชน และการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นนั้น จะเป็นตัวตัดสินว่าออสเตรเลียจะสามารถรักษาอันดับความน่าเชื่อถือที่ AAA ไว้ได้หรือไม่ นอกจากนี้ S&P ยังชี้ให้เห็นถึงการใช้จ่ายนอกงบประมาณ (off-budget) กว่า 1 แสนล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (6.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นระหว่างปีงบประมาณ 2568-2572 ซึ่งสะท้อนว่า S&P มีความกังวลกังวลเกี่ยวกับสถานะการคลังของออสเตรเลีย
ทั้งนี้ S&P คาดการณ์ว่าออสเตรเลียจะเผชิญกับการขาดดุลงบประมาณในปีงบประมาณที่สิ้นสุดเดือนมิ.ย. 2568 หลังจากที่เกินดุลติดต่อกันสองปี พร้อมกับคาดการณ์ว่า การที่รัฐบาลมีการใช้จ่ายจำนวนมากนั้นจะส่งผลให้การขาดดุลงบประมาณปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะระดับ 2%-2.5% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ ซึ่งถือเป็นระดับที่แทบจะไม่เคยเห็นมาก่อนนับตั้งแต่ช่วงหลังวิกฤตการเงินโลก