รายงานของมูดีส์ระบุว่า การเปลี่ยนแปลงเพดานในครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงอันดับความน่าเชื่อถือสูงสุดที่สามารถกำหนดให้กับผู้ออกตราสารหนี้ในไทย หรือต่อหลักทรัพย์ทางการเงินที่มีการปรับโครงสร้างซึ่งได้รับการสนับสนุนโดยบัญชีลูกหนี้ที่กู้ยืมในรูปสกุลเงินบาท โดยการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวเป็นดังนี้
1 เพดานอันดับความน่าเชื่อถือตราสารหนี้ระยะยาวสกุลเงินบาทได้รับการปรับจากระดับ Aa2 มาอยู่ที่ระดับ A1
2 เพดานอันดับความน่าเชื่อเงินฝากระยะยาวสกุลเงินบาทได้รับการปรับจากระดับ Aa2 มาอยู่ที่ระดับ A1
3 เพดานอันดับความน่าเชื่อถือตราสารหนี้ระยะยาวสกุลเงินต่างประเทศยังคงอยู่ที่ระดับ A2 แต่เพดานอันดับความน่าเชื่อถือตราสารหนี้ระยะสั้นสกุลเงินต่างประเทศได้รับการปรับจากระดับ P-2 มาอยู่ที่ระดับ P-1
4 เพดานอันดับความน่าเชื่อถือเงินฝากระยะยาวสกุลเงินต่างประเทศยังคงอยู่ที่ระดับ Baa1 และเพดานอันดับความน่าเชื่อถือเงินฝากระยะสั้นสกุลเงินต่างประเทศยังคงไม่เปลี่ยนแปลงที่ P-2
การที่มูดีส์ตัดสินใจปรับเพดานอันดับความน่าเชื่อถือตราสารหนี้สกุลเงินต่างประเทศของไทยนั้น ได้พิจารณาจากการที่มูดีส์นำแนวทางในการกำหนดเพดานความเสี่ยงสำหรับตราสารหนี้สกุลเงินในประเทศ และภาระผูกพันอื่นๆสำหรับสกุลเงินในประเทศมาใช้ หลังจากที่ได้ประกาศแนวทางดังกล่าวในช่วงต้นปีนี้