อย่างไรก็ตาม ฟิทช์ระบุว่าจะมีการพิจารณาทบทวนปัจจัยลบที่อาจจะมีขึ้นต่ออันดับเครดิตของสหรัฐ หากไม่สามารถเพิ่มเพดานหนี้ได้ทันเวลา
ฟิทช์ระบุว่า หากสหรัฐไม่สามารถเพิ่มเพดานหนี้ได้ทันกาล กระทรวงการคลังก็อาจจะต้องปรับลดการใช้จ่ายขนานใหญ่ ซึ่งจะส่งผลกระทบเชิงลบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ บรรดาผู้นำของสภาคองเกรสยังไม่มีกำหนดที่จะหารือกันต่อไปเกี่ยวกับร่างกฎหมายงบประมาณรายจ่าย ซึ่งทำให้สมาชิกสภานิติบัญญัติบางรายวิตกว่าการปิดหน่วยงานรัฐบาลอาจนำไปสู่ความขัดแย้งที่รุนแรงมากขึ้นเกี่ยวกับแนวทางการปรับเพิ่มเพดานหนี้เพื่อเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ของสหรัฐที่อาจจะเกิดขึ้นหลังวันที่ 17 ต.ค.นี้
ทางด้านสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ส (S&P) ระบุเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า การหารือประเด็นเพดานหนี้ในปัจจุบันไม่มีแนวโน้มจะเปลี่ยนแปลงอันดับเครดิตของสหรัฐที่ AA+ โดยตั้งข้อสังเกตว่าแม้ความขัดแย้งดีงกล่าวจะส่งผลให้มีความไม่แน่นอน แต่ตราบใดที่เป็นไปในช่วงสั้นๆ ก็ไม่น่าจะส่งผลกระทบต่ออันดับเครดิต
ในเดือนส.ค.ปี 2554 S&P ได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐลงจากระดับ AAA มาอยู่ที่ AA+ หลังจากมีความขัดแย้งด้านเพดานหนี้ในปีดังกล่าว
ส่วนมูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิสนั้น ยังให้อันดับเครดิตสหรัฐที่ AAA