โดยปัจจัยสนับสนุนได้แก่ อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว อันดับเครดิตสนับสนุน อันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำ และอันดับเครดิตภายในประเทศของ KTB สะท้อนให้เห็นว่า ฟิทช์เชื่อว่ามีความเป็นไปได้อย่างสูงที่ธนาคารจะได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล หากมีความจำเป็น KTB เป็นธนาคารพาณิชย์แห่งเดียวที่รัฐบาลเป็นผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่ ทั้งยังมีการควบคุมกำกับอย่างใกล้ชิด และการสนับสนุนด้านเงินทุนจากรัฐบาลในอดีต ดังนั้นรัฐบาลอาจมีอำนาจควบคุมดูแล KTB ในการดำเนินการตามนโยบายของรัฐในอนาคต หากมีความจำเป็น นอกจากนี้ KTB ยังเป็นหนึ่งในธนาคารพาณิชย์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทยซึ่งมีความสำคัญต่อระบบการเงินและเศรษฐกิจของประเทศ แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพของธนาคารสะท้อนถึงความคาดหมายว่าระดับการสนับสนุนจากรัฐบาลจะไม่เปลี่ยนแปลงในระยะสั้น
อันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน (Viability Rating) ที่ ‘bbb-’ ของ KTB คำนึงถึงความแข็งแกร่งของเครือข่ายธุรกิจเงินฝากและสถานะทางการเงินของธนาคารที่ปรับตัวดีขึ้น ผลกำไรของธนาคารซึ่งในอดีตอยู่ในระดับไม่สูงนักเมื่อเทียบกับธนาคารพาณิชย์ที่มีอันดับเครดิตใกล้เคียงกัน ได้ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และส่งผลให้ธนาคารสามารถตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญในระดับที่สูงขึ้น และช่วยให้อัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้นเช่นกัน ฟิทช์คาดว่าแนวโน้มดังกล่าวจะเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าสภาวะเศรษฐกิจที่ปรับตัวแย่ลงและการเพิ่มขึ้นของหนี้ครัวเรือนในประเทศไทย อาจส่งผลให้ค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญปรับตัวเพิ่มขึ้นในอนาคต
อัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญของธนาคารในด้านอื่นเช่น สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ และเงินกองทุนนั้น ยังอยู่ในระดับใกล้เคียงกับธนาคารพาณิชย์อื่นในประเทศที่มีอันดับเครดิตใกล้เคียงกัน แต่ยังคงต่ำกว่ากลุ่มธนาคารพาณิชย์ในต่างประเทศเล็กน้อย อย่างไรก็ตามฟิทช์มองว่าระดับเงินกองทุนที่จะช่วยรองรับผลความเสี่ยงของธนาคารในปัจจุบันอยู่ในระดับที่ยอมรับได้ ถ้าระดับการเติบโตและระดับความเสี่ยงที่ยอมรับ (risk appetite) ของธนาคารได้ยังคงอยู่ในระดับที่จัดการได้