บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศ (National Rating) ระยะยาว ของ บริษัท เอสวีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ SVI ที่ ‘BBB+(tha)’ แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ และอันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นที่ ‘F2(tha)’
ปัจจัยที่มีผลต่ออันดับเครดิต ได้แก่
สถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง: ฟิทช์คาดว่า SVI ซึ่งเป็นผู้ให้บริการแบบครบวงจรในการรับประกอบแผงวงจรสำเร็จรูปและผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Manufacturing Service) จะสามารถรักษาสถานะการเงินที่แข็งแกร่ง โดยมีอัตราส่วนหนี้สินสุทธิที่ปรับปรุงแล้วต่อกระแสเงินสดจากการดำเนินงานก่อนการเปลี่ยนแปลงของเงินทุนหมุนเวียน (FFO-Adjusted Net Leverage) อยู่ในระดับต่ำกว่า 1.0 เท่าได้ในช่วง 2 ปีข้างหน้า กระแสเงินสดจากการดำเนินงานก่อนการเปลี่ยนแปลงของเงินทุนหมุนเวียน (Funds Flow from Operations) จำนวน 700-800 ล้านบาทต่อปี น่าจะเพียงพอสำหรับเงินลงทุน และเงินปันผล ในปี 2557 และ 2558 โดย ณ สิ้นไตรมาสที่ 2 ของปี 2557 บริษัทมีเงินสดมากกว่าหนี้สินจำนวน 1.8 พันล้านบาท
การเติบโตที่ยังคงแข็งแกร่ง: SVI ยังคงได้รับประโยชน์จากแนวโน้มการเติบโตในระยะยาวของธุรกิจให้บริการแบบครบวงจรในการประกอบผลิตภัณฑ์ประเภทวงจรไฟฟ้า และผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์สำเร็จรูป ซึ่งเป็นผลมาจากความต้องการของผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ในภาคอุตสาหกรรม (Industrial Demand) ที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์มีแนวโน้มที่จะพึ่งพาผู้รับประกอบแผงวงจรสำเร็จรูปและผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ในกระบวนการผลิตมากขึ้น โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่อยู่นอกกลุ่มผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกสำหรับผู้บริโภค
เน้นการผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ประเภท Non-traditional: SVI ได้รับประโยชน์จากการที่บริษัทเน้นการผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ระดับบนประเภท Non-traditional ซึ่งมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี มีความผันผวนจากความต้องการที่ต่ำกว่า และมีอัตราส่วนกำไรจากการผลิตที่สูงกว่า ปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ผลการดำเนินงาน และธุรกิจของบริษัทปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงสามปีที่ผ่านมาหลังจากเหตุการน้ำท่วมใหญ่ ถึงแม้ว่าสภาวะอุตสาหกรรมจะยังคงมีความท้าทาย
ขนาดและการกระจุกตัวของรายได้: ปัจจัยเสี่ยงของ SVI ประกอบด้วยการที่บริษัทมีกลุ่มลูกค้าที่กระจุกตัว แนวโน้มการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นในธุรกิจรับประกอบแผงวงจรสำเร็จรูปและผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ประเภท Non-traditional รวมถึงความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีของอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ นอกจากนี้ SVI ยังเผชิญกับความผันผวนของความต้องการใช้เงินทุนหมุนเวียน และความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน อย่างไรก็ตามบริษัทมีการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนบางส่วนโดยการทำสัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้า
ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต
ปัจจัยลบ:
- หนี้สินสุทธิของบริษัทเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเนื่องจากการจ่ายเงินปันผลที่สูง การลงทุนที่สูงกว่าที่คาดไว้ หรือการเข้าซื้อกิจการอื่นโดยใช้เงินทุนจากการกู้ยืมที่สูง (Debt Funded Acquisition) ซึ่งส่งผลให้ FFO-Adjusted Net Leverage สูงกว่า 1.0 เท่าอย่างต่อเนื่อง
- อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อม ค่าตัดจำหน่ายและค่าเช่า ต่อรายได้ (EBITDAR Margin) ปรับตัวลดลงต่ำกว่า 6% อย่างต่อเนื่อง (ปี 2556 บริษัทมี EBITDAR margin อยู่ที่ 9.6%)
- สถานะทางการตลาดที่อ่อนแอลง หรือการสูญเสียลูกค้ารายสำคัญ
ปัจจัยบวก:
บริษัทสามารถรักษาอัตราส่วน FFO-Adjusted Net Leverage ให้อยู่ต่ำกว่า 1.0 เท่า และอัตราส่วน FFO-Adjusted Leverage ให้อยู่ต่ำกว่า 1.5 เท่า อย่างต่อเนื่อง และสามารถ
- เพิ่มขนาดธุรกิจ โดยมีรายได้สูงกว่า 500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ปี 2556 บริษัทมีรายได้อยู่ที่ 250 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) ลดการกระจุกตัวของลูกค้าลูกค้า และเพิ่มการกระจายตัวของกลุ่มลูกค้าในภูมิภาคอื่นๆ หรือ
- เพิ่ม EBITDAR Margin ให้อยู่ในระดับสูงกว่าร้อยละ 10 อย่างต่อเนื่อง