ขณะเดียวกันฟิทช์ยังได้คงอันดับเครดิตสากลระยะยาวสกุลเงินต่างประเทศและสกุลเงินในประเทศ (Long-Term Foreign- and Local-Currency Issuer Default Ratings,IDR) ของ AIS ที่ 'BBB+' แนวโน้มเครดิตมีเสถียรภาพ
ปัจจัยสำคัญที่มีผลต่ออันดับเครดิตคือ อัตราส่วนกำไรต่อรายได้ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่าย และค่าเช่า ต่อรายได้ (EBITDAR Margin) ของ AIS น่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นไปอยู่ในระดับ 46%-50% ในปี 2557 และ 2558 (จาก 45.1% ในปี 2556)
อีกปัจจัยหนึ่งคือความคล่องตัวในการรองรับการลงทุนที่สูง โดยกระแสเงินสดสุทธิ (Free Cash Flow) ของ AIS น่าจะติดลบในปี 2557 และ 2558 จากเงินลงทุนที่สูงอย่างต่อเนื่องสำหรับการขยายเครือข่าย 3G และส่งผลให้อัตราส่วนหนี้สินต่อกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน (Financial Leverage) ของ AIS ปรับตัวเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามฟิทช์มองว่าสถานะทางธุรกิจและทางการเงินของ AIS จะยังคงสอดคล้องกับอันดับเครดิตปัจจุบัน
นอกจากนี้ AIS ยังสามารถรักษาสถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องในฐานะผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่รายใหญ่ที่สุดในประเทศในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ฟิทช์คาดว่าบริษัทจะสามารถรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดตามรายได้จากการให้บริการให้อยู่ในระดับสูงกว่า 50% ในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า นอกจากนี้สถานะทางธุรกิจของ AIS ยังได้รับการสนับสนุนจากชื่อเสียงทางการค้าของบริษัทที่เป็นที่รู้จักเป็นอย่างดี และเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ครอบคลุมมากที่สุด