หุ้นกู้ดังกล่าวได้รับการจัดอันดับเครดิตในระดับเดียวกันกับอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของบริษัทฯ เนื่อง จากหุ้นกู้ดังกล่าวมีสถานะเท่าเทียมกับหนี้ไม่มีหลักประกัน และไม่ด้อยสิทธิของบริษัทฯ
สำหรับปัจจัยที่มีผลต่ออันดับเครดิต ได้แก่
บริษัทน้ำมันและก๊าซธรรมชาติแห่งชาติ – ปตท. เป็นผู้นำในธุรกิจน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในประเทศไทย และมีความสำคัญในเชิงกลยุทธ์และเป็นตัวจักรสำคัญของรัฐบาลในการขับเคลื่อนนโยบายที่เกี่ยวกับการพัฒนาและความมั่นคงทางพลังงานของประเทศ ปตท. เป็นผู้ดำเนินการระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติและเป็นผู้จัดหาและจัดจำหน่ายก๊าซธรรมชาติรายใหญ่ในประเทศไทย โดยก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงหลักในการผลิตไฟฟ้าของประเทศ นอกจากนี้ ปตท. ยังเป็นบริษัทชั้นนำในธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม ธุรกิจน้ำมัน และธุรกิจปิโตรเคมีในประเทศไทยอีกด้วย
กระแสเงินสดจากการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง - สถานะทางการเงินของ ปตท. ได้รับประโยชน์จากกระแสเงินสดจากการดำเนินงานจากธุรกิจก๊าซธรรมชาติที่มีความสม่ำเสมอ อันเป็นผลมาจากสัญญาการจัดจำหน่ายระยะยาวซึ่งมีการกำหนดปริมาณการซื้อขั้นต่ำจากคู่สัญญาในลักษณะ take-or-pay รวมถึงโครงสร้างราคาที่สามารถส่งผ่านต้นทุนการขายให้แก่ลูกค้าได้ ธุรกิจก๊าซธรรมชาติมีสัดส่วนประมาณร้อยละ 21 ของกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อม และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) รวมของ ปตท. ในช่วงหกเดือนแรกของปี 2557 นอกจากนี้ในธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมซึ่งมีสัดส่วนประมาณร้อยละ 67 ของกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อม และค่าตัดจำหน่ายรวมของปตท. ในช่วงหกเดือนแรกของปี 2557 นั้น ร้อยละ 66 ของปริมาณการขายเป็นก๊าซธรรมชาติซึ่งจำหน่ายในประเทศเป็นส่วนใหญ่
แผนการลงทุนที่สูง – ฟิทช์คาดว่าค่าใช้จ่ายเพื่อการลงทุนของปตท. และบริษัทย่อย จะเพิ่มขึ้นในปี 2557 เนื่องจากบริษัทฯ ยังคงลงทุนในธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม และธุรกิจก๊าซธรรมชาติอย่างต่อเนื่อง เพื่อความมั่นคงทางพลังงานของประเทศ ดังนั้น ฟิทช์คาดว่าอัตราส่วนหนี้สินสุทธิของบริษัทฯ จะเพิ่มขึ้นในปี 2557 นอกจากนี้ราคาน้ำมันที่ลดลงอาจทำให้อัตราส่วนหนี้สินสุทธิสูงกว่าที่ฟิทช์เคยคาดการณ์เอาไว้ อย่างไรก็ตาม ประมาณการอัตราส่วนหนี้สินสุทธิใหม่ซึ่งวัดจากอัตราส่วนหนี้สินสุทธิที่ปรับปรุงแล้วต่อกระแสเงินสดจากการดำเนินงานก่อนการเปลี่ยนแปลงของเงินทุนหมุนเวียน (FFO adjusted net leverage) น่าจะอยู่ในระดับต่ำกว่า 2.25 เท่า (ณ สิ้นปี 2556 อัตราส่วนหนี้สินดังกล่าวอยู่ที่ 1.6 เท่า)
บริษัทน้ำมันและก๊าซธรรมชาติครบวงจรขนาดกลาง - อันดับเครดิตโดยลำพัง (Standalone Rating) ของปตท. สะท้อนถึงการดำเนินธุรกิจน้ำมันและก๊าซธรรมชาติแบบครบวงจรของบริษัทฯ อย่างไรก็ตาม ปริมาณสำรองน้ำมันและก๊าซธรรมชาติของปตท. ได้ลดลง โดยมีปริมาณสำรองสำหรับการผลิตประมาณ 7 ปี ณ สิ้นปี 2556 จากประมาณ 10 ปี ณ สิ้นปี 2553 เนื่องจากปริมาณสำรองน้ำมันและก๊าซธรรมชาติที่หามาทดแทน มีน้อยกว่าปริมาณการผลิตในช่วงสามปีที่ผ่านมา ฟิทช์คาดว่าการลงทุนในช่วงที่ผ่านมาน่าจะช่วยเพิ่มปริมาณสำรองน้ำมันและก๊าซธรรมชาติให้กับบริษัทฯ นอกจากนี้ บริษัทฯยังได้ปรับลดเป้าหมายการผลิตในปี 2563 จากเก้าแสนบาร์เรลต่อวันลงเหลือหกแสนบาร์เรลต่อวันอีกด้วย
ปัจจัยที่อาจมีผลกับอันดับเครดิตในอนาคต
ปัจจัยลบ:
-การเปลี่ยนแปลงในเรื่องกฎระเบียบ การแก้ไขสัญญาซื้อขายก๊าซธรรมชาติและการปรับค่าผ่านท่อก๊าซที่ทำให้ ปตท.เสียประโยชน์
-การลงทุน/การเข้าซื้อกิจการจำนวนมากโดยใช้เงินกู้ยืม และ/หรือ กระแสเงินสดจากการดำเนินงานที่ต่ำกว่าที่คาด ซึ่งทำให้อัตราส่วนหนี้สินสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งวัดจากอัตราส่วนหนี้สินสุทธิที่ปรับปรุงแล้วต่อกระแสเงินสดจากการดำเนินงานก่อนการเปลี่ยนแปลงของเงินทุนหมุนเวียน (funds flow from operations adjusted net leverage) ที่สูงกว่า 2.25 เท่าอย่างต่อเนื่อง
-ปริมาณสำรองน้ำมันและก๊าซธรรมชาติที่ยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง
- EBITDA จากธุรกิจก๊าซธรรมชาติลดลงต่ำกว่าร้อยละ 20 ของ EBITDA รวมของบริษัทฯ อย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่อันดับเครดิตโดยลำพัง (Standalone Rating) ของปตท. ต่ำกว่าอันดับเครดิตของประเทศไทย ฟิทช์จะพิจารณาให้อันดับเครดิตเพิ่มขึ้นหนึ่งอันดับจากอันดับเครดิต Standalone ของ ปตท. เพื่อสะท้อนถึงการสนับสนุนของภาครัฐ ต่อ ปตท. ในทางอ้อม (Implicit Support) ตามหลักเกณฑ์การจัดอันดับเครดิตของฟิทช์ในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทใหญ่กับบริษัทย่อย (Parent and Subsidiary Rating Linkage Methodology)