ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศเครดิตพินิจแนวโน้มเป็นลบแก่อันดับเครดิตสากลระยะยาวสกุลเงินต่างประเทศ และอันดับเครดิตสากลระยะยาวสกุลเงินในประเทศ ของญี่ปุ่น ที่ A+ ซึ่งเพิ่มความเป็นไปได้ว่าญี่ปุ่นอาจถูกปรับลดอันดับเครดิตลง
ฟิทช์ระบุในแถลงการณ์ว่า การชะลอการขึ้นภาษีการบริโภค และความยากลำบากในการบรรลุเป้าหมายการลดยอดขาดดุลการคลัง คือสาเหตุที่ทำให้ฟิทช์ให้เครดิตพินิจแนวโน้มเป็นลบแก่ญี่ปุ่น
การเตือนดังกล่าวของฟิทช์มีขึ้นในขณะที่ญี่ปุ่นกำลังถูกตั้งคำถามถึงการตัดสินใจชะลอการขึ้นภาษีการบริโภคจากเดิมที่กำหนดไว้ในเดือนต.ค.2558 ออกไปเกือบสองปีเป็นเดือนเม.ย.2560 ซึ่งอาจส่งผลสืบเนื่องให้ญี่ปุ่นไม่สามารถลดยอดขาดดุลงบประมาณได้ตามเป้า
ฟิทช์ระบุว่า การชะลอการขึ้นภาษีนั้นหมายความว่า เกือบจะแน่นอนว่ารัฐบาลจะไม่สามารถบรรลุเป้าหมายในการลดยอดขาดดุลงบประมาณลงเหลือ 3.3% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศภายในปีงบประมาณ 2558 ซึ่งจะเริ่มต้นในเดือนเม.ย.2558 และสิ้นสุดลงในเดือนมี.ค.2559
นอกจากนี้ ฟิทช์ยังได้อ้างถึงสัดส่วนหนี้ต่อจีดีพีของรัฐบาลญี่ปุ่นที่ปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งจะแตะที่ 241% ณ สิ้นปี 2557 เพิ่มขึ้นจากระดับ 184% ณ สิ้นปี 2551 นับว่าสูงสุดเป็นอันดับสองในกลุ่มประเทศที่ได้รับการจัดอันดับที่ A หรือ AA โดยเป็นรองเพียงแค่ไอร์แลนด์
สำหรับปัจจัยอื่นๆที่ฟิทช์อ้างถึงนั้น ประกอบด้วยการขาดแผนระยะกลางที่ชัดเจนในการลดยอดขาดดุลงบประมาณภายในปีงบประมาณ 2563
การประกาศเครดิตพินิจเป็นลบแก่ญี่ปุ่นในครั้งนี้มีขึ้นหลังจากที่มูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส เพิ่งปรับลบอันดับหนี้รัฐบาลญี่ปุ่นลงสู่ระดับ A1 จาก Aa3 เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยมูดีส์ได้อ้างถึงความไม่แน่นอนเกี่ยวกับความสามารถของญี่ปุ่นในการฟื้นฟูสถานะการคลัง ภายหลังจากที่รัฐบาลประกาศเลื่อนการขึ้นภาษีการบริโภคออกไป