หุ้นกู้ดังกล่าวจะมีกำหนดไถ่ถอนในช่วง 2-3 ปี ส่วนวงเงินที่ได้จะอยู่ที่ 8 พันล้านบาท และรายได้จากการจำหน่ายจะนำมาใช้สำหรับรีไฟแนนซ์หรือการดำเนินการตามเป้าหมายของบริษัท
ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต
อันดับเครดิตของหุ้นกู้ดังกล่าวอยู่ในระดับเดียวกันกับอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ BAY เนื่องจากหุ้นกู้ดังกล่าวเป็นภาระผูกพันที่ไม่ด้อยสิทธิและไม่มีหลักประกันของธนาคาร
อันดับเครดิตของ BAY พิจารณาจากฐานะของธนาคารซึ่งเป็นบริษัทลูกที่มีบทบาทสำคัญในเชิงกลยุทธ์ต่อ Bank of Tokyo-Mitsubishi UFJ, Ltd. (BTMU, อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวที่ ‘A’ / แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ) โดยที่ BTMU มีสัดส่วนการถือหุ้นใน BAY ที่ 76.9% ทั้งนี้ BAY เป็นธนาคารที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่ 5ในประเทศไทยและได้ดำเนินการควบรวมกิจการกับ BTMU สาขากรุงเทพฯ เสร็จสิ้นไปแล้วในเดือนมกราคม 2558
อันดับเครดิตทั้งหมดของธนาคารมีรายละเอียดดังนี้
BAY
-อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวที่ ‘A-’; แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
-อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะสั้นที่ ‘F2’
-อันดับความเข็งแกร่งทางการเงินที่ ‘bbb’
-อันดับเครดิตสนับสนุนที่ ‘1’
-อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวที่ ‘AAA(tha)’; แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
-อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นที่ ‘F1+(tha)’
-อันดับเครดิตภายในประเทศของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิไม่มีหลักประกันที่ ‘AAA(tha)’
-อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิไม่มีหลักประกันที่ ‘F1+(tha)’
-อันดับเครดิตภายในประเทศของหุ้นกู้ด้อยสิทธิไม่มีหลักประกัน (Legacy Basel II) ที่ ‘AA+(tha)’