ฟิทช์ระบุว่า เนื่องมาจากเศรษฐกิจยูโรโซนมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก นอกจากนี้ ยูโรโซนยังเป็นผู้นำเข้ารายใหญ่สุดและยังเป็นแหล่งการปล่อยเงินกู้ข้ามพรมแดนที่ใหญ่ที่สุด ดังนั้นประเทศในภูมิภาคอื่นๆอาจจะได้รับผลกระทบตามไปด้วย จากภาวะเงินฝืดและเศรษฐกิจที่อ่อนตัวของยูโรโซน
ฟิทช์ชี้ว่า แม้ว่า ธนาคารกลางยุโรปจะใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณเพื่อกระตุ้นเงินเฟ้อเมื่อเดือนม.ค.ที่ผ่านมา แต่ภาวะเงินฝืดที่ยืดเยื้อและราคาน้ำมันที่ร่วงลงของยูโรโซนก็ยังคงเป็นความเสี่ยงอยู่