นายไมเคิล เทย์เลอร์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสินเชื่อซึ่งดูแลด้านเอเชียแปซิฟิคของมูดีส์เปิดเผยว่า โครงการ Belt and Road จะช่วยให้เงินหยวนไปสู่ระดับสากลได้ ขณะที่การลงทุนและการปล่อยเงินกู้ภายในภูมิภาคจะเป็นแรงขับเคลื่อนให้มีการใช้เงินหยวนในระดับสากลมากขึ้น
มูดีส์ระบุอีกว่า โครงการ Belt and Road ถือเป็นความน่าเชื่อถือเชิงบวกสำหรับบริษัทขนาดใหญ่และมีความมั่นคงทางการเงิของจีน เช่น บริษัทวัสดุก่อสร้าง บริษัทพลังงาน และ บริษัทรับเหมาก่อสร้าง ทั้งนี้มีการคาดการณ์ว่า บริษัทที่ดำเนินธุรกิจด้านทรัพยากรธรรมชาติ เช่น น้ำมัน และก๊าซธรรมชาติ จะได้รับผลประโยชน์จากโครงการดังกล่าวด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ ธนาคารจีนต่างๆ ที่เข้าร่วมโครงการดังกล่าว จะได้รับผลประโยชน์จากช่องทางการเข้าถึงตลาดต่างๆ ที่เพิ่มขึ้น และความต้องการด้านเงินกู้ที่เพิ่มสูงขึ้น สำนักข่าวซินหัวรายงาน