ต้ากงระบุในแถลงการณ์ซึ่งเผยแพร่บนเว็บไซต์ว่า เหตุการณ์ความรุนแรงในยูเครนตะวันออก ประกอบกับปัญหาสภาพคล่องในภาคธนาคาร ส่งผลให้ยูเครนมีศักยภาพในการชำระหนี้ลดลงมาก
แถลงการณ์ดังกล่าวระบุว่า "เนื่องจากเศรษฐกิจยูเครนกำลังถดถอยอย่างหนัก แหล่งทุนสำหรับชำระหนี้จึงไม่มั่นคง นอกจากนี้ ยังไม่มีแนวโน้มเจรจาเพื่อปรับโครงสร้างหนี้สิน ซึ่งส่งผลให้ความเสี่ยงในการผิดชำระหนี้นั้นเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ"
เมื่อเดือนมิ.ย. 2558 รัฐบาลยูเครนและกลุ่มติดอาวุธในยูเครนตะวันออกได้กลับมาปะทะกันอีกครั้งภายหลังจากที่ได้มีการหยุดยิงเป็นเวลาสั้นๆ ส่งผลให้ข้อตกลงหยุดยิง Minsk ฉบับใหม่มีแนวโน้มล้มเหลว
วิกฤติการเมืองและภาวะเศรษฐกิจถดถอยรุนแรงนั้น ได้ส่งผลกระทบต่อคุณภาพของสินทรัพย์และสภาพคล่องของภาคธนาคาร โดยเมื่อปี 2557 สัดส่วนเงินกู้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ได้ทะยานเกินระดับ 15% ขณะที่กระแสเงินฝากไหลออกพุ่งแตะ 30%
ทั้งนี้ ต้ากงคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจยูเครนจะหดตัวลง 9% เทียบรายปีในปี 2558 หลังจากที่ร่วงลง 6.8% ในปี 2557 สำนักข่าวซินหัวรายงาน