ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) ได้จัดอันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวภายในประเทศหุ้นกู้ที่ไม่มีประกันและไม่ด้อยสิทธิชุดใหม่ของ บมจ.ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น (WHA) วงเงินไม่เกิน 2.5 พันล้านบาท ซึ่งจะครบกำหนดไถ่ถอนในปี 2562-2563 ที่ 'BBB+(tha)'
หุ้นกู้ดังกล่าวได้รับการจัดอันดับเครดิตในระดับเดียวกันกับอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของบริษัทฯ เนื่องจากหุ้นกู้ดังกล่าวมีสถานะเท่าเทียมกับหนี้ไม่มีหลักประกันและไม่ด้อยสิทธิของบริษัทฯ เงินที่ได้รับจากการออกหุ้นกู้ดังกล่าวจะนำไปชำระคืนเงินกู้บางส่วนและใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน
สำหรับปัจจัยที่มีผลต่ออันดับเครดิต ได้แก่ อัตราส่วนหนี้สินหลังจากการรวมกิจการของ WHA เพิ่มสูงขึ้นอย่างมากในปี 2558 เนื่องจากบริษัทฯ ได้ใช้เงินกู้จำนวนประมาณ 3.2 หมื่นล้านบาทในการเข้าซื้อกิจการของ บริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด (มหาชน) (Hemaraj) เป็นหลัก โดยประมาณร้อยละ 80 ของเงินกู้ดังกล่าวจะครบกำหนดชำระภายในกลางปี 2560 ฟิทช์คาดว่าอัตราส่วนหนี้สินรวมที่วัดจากหนี้สินสุทธิที่ปรับปรุงแล้วต่อกระแสเงินสดจากการดำเนินงานก่อนการเปลี่ยนแปลงของเงินทุนหมุนเวียน (FFO adjusted leverage) ของ WHA จะอยู่ที่ระดับ 5.0 เท่าถึง 5.5 เท่าหลังจากการชำระหนี้งวดที่ครบกำหนดชำระภายในกลางปี 2560 โดยแหล่งเงินทุนที่จะใช้ในการชำระหนี้จะมาจากการขายทรัพย์สินเป็นหลักรวมถึงการลดค่าใช้จ่ายเพื่อการลงทุน
การพึ่งพากระแสเงินสดจากการขายสินทรัพย์ โดยแนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบของ WHA สะท้อนถึงความไม่แน่นอนของแผนการลดอัตราส่วนหนี้สินของบริษัทฯ โดยแหล่งเงินทุนหลักที่บริษัทฯ คาดว่าจะนำมาใช้เพื่อชำระหนี้ส่วนใหญ่มาจากการขายสินทรัพย์ ซึ่งขึ้นอยู่กับสภาพตลาดที่อาจจะส่งผลกระทบต่อมูลค่าและช่วงเวลาที่จะขายสินทรัพย์ได้ การขายทรัพย์สินที่ไม่ได้ใช้ในการประกอบธุรกิจหลักของ Hemaraj และการขายอาคารสำนักงานให้เช่าของ WHA แก่ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ได้ดำเนินการเสร็จสิ้นในปี 2558 โดยได้รับเงินจากการขายสินทรัพย์ดังกล่าวประมาณ 5 พันล้านบาทตามแผนที่วางไว้ ส่วนการขายโรงงานและคลังสินค้าสำเร็จรูปให้เช่าของ Hemaraj แก่ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ไม่เป็นไปตามที่วางแผนไว้เดิมในปี 2558 เนื่องจากความล่าช้าในการจัดตั้งทรัสต์ใหม่ บริษัทฯ คาดว่าการขายสินทรัพย์น่าจะดำเนินการเสร็จสิ้นได้ในเดือนกันยายน 2559 อย่างไรก็ตาม การลดระดับหนี้สินของบริษัทฯ ในปี 2558 น้อยกว่าที่ฟิทช์คาดไว้เพียง 2 พันล้านบาท เนื่องจากบริษัทฯ ได้รับเงินจากการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทฯ จำนวน 3.2 พันล้านบาทและบริษัทฯ มีการใช้จ่ายเพื่อการลงทุนน้อยกว่าที่คาด ซึ่งช่วยทดแทนเงินจากการขายสินทรัพย์ที่ล่าช้าไปดังกล่าวได้ส่วนหนึ่ง