มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศ ประกาศปรับลดแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือบราซิล จากระดับ "มีเสถียรภาพ" ลงสู่ระดับ "เชิงลบ" และคงอันดับความน่าเชื่อถือของบราซิลที่ Ba2
การปรับลดแนวโน้มความน่าเชื่อถือในครั้งนี้มีขึ้นหลังก่อนหน้านี้มูดี้ส์ได้ขู่หั่นอันดับเรทติ้งบราซิล หากข้อกล่าวหาคอรัปชั่นที่พัวพันกับนายมิเชล เตเมร์ ประธานาธิบดีบราซิล ส่งผลกระทบต่อการปฏิรูปเศรษฐกิจที่จำเป็น
นักวิเคราะห์ของมูดี้ส์ ระบุว่า ปัญหาความไม่แน่นอนทางการเมืองมีความเสี่ยงที่จะยืดเยื้อ ซึ่งก่อให้เกิดความเสี่ยงว่าการปฏิรูปจะล่าช้าไปด้วย
ก่อนหน้านี้มีรายงานว่า นายมิเชล เตเมร์ ประธานาธิบดีบราซิล ได้ให้การสนับสนุนต่อความพยายามที่จะมีการจ่ายเงินแก่พยานคนหนึ่งเพื่อปิดปากในการให้การคดีการให้สินบนครั้งใหญ่ที่สุดของบราซิล
ทั้งนี้ ศาลฎีกาของบราซิลได้เผยแพร่เทปบันทึกคำสนทนาระหว่างนายเตเมร์ และนายโฮสลีย์ บาติสตา เจ้าของบริษัท JBS ผู้ผลิตเนื้อรายใหญ่ของบราซิล โดยทั้งสองได้พูดคุยกันเกี่ยวกับการติดสินบนด้วยการจ่ายเงินให้กับนายเออดูร์โด คันฮา อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งถูกจำคุกอยู่ในขณะนี้ โดยเงินดังกล่าวจะเป็นหลักประกันว่า นายคันฮาจะไม่เปิดโปงประเด็นต่างๆที่เกี่ยวข้องกับบริษัท JBS
นอกจากนี้ นายบาติสตายังได้กล่าวถึงนายเกดเดล เวอิรา ลิมา อดีตรัฐมนตรีซึ่งเคยทำหน้าที่เป็นคนกลางระหว่างนายบาติสตาและนายเตเมร์ แต่ในระยะหลังการติดต่อกับนายลิมาเป็นไปอย่างยากลำบากเนื่องจากเขาถูกตรวจสอบ และได้ลาออกจากตำแหน่งไปในที่สุด
ในตอนหนึ่งของการบันทึกเสียงระบุว่า นายบาติสตาได้ขอให้ปธน.เตเมร์ หาคนกลางที่จะมาช่วยเจรจาแทนนายลิมา ซึ่งไม่สามารถทำหน้าที่ดังกล่าวได้ โดยปธน.เตเมร์ได้แนะนำนายโรดริโก ลอเรส ซึ่งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งในเวลาต่อมา นายลอเรสได้ถูกถ่ายคลิปในขณะรับเงินสินบน 500,000 เรียล (ราว 148,000 ดอลลาร์สหรัฐ) จากนายบาติสตา
ในส่วนของแนวโน้มเศรษฐกิจบราซิลนั้น มูดี้ส์คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจบราซิลจะขยายตัว 0.5% ในปีนี้ หลังจากที่ได้ร่วงลงอย่างหนักในปีที่ผ่านมา