มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส เปิดเผยว่า สถานการณ์ความขัดแย้งทางการค้าล่าสุดระหว่างสหรัฐและจีนนั้น กำลังขยายวงไปยังบริษัทจีนที่มูดี้ส์ได้เคยจัดอันดับความน่าเชื่อถือไว้ อันเนื่องมาจากการจัดเก็บภาษีของสหรัฐ
ลีน่า ชอย รองประธานและเจ้าหน้าที่เครดิตอาวุโสของมูดี้ส์ กล่าวว่า รายชื่อผลิตภัณฑ์ของบริษัทที่มูดี้ส์ได้จัดอันดับไว้นั้นจะมีความเสี่ยงที่จะถูกสหรัฐจัดเก็บภาษี เพราะรายชื่อดังกล่าวมีขอบเขตที่กว้างมากขึ้นกว่ารายชื่อผลิตภัณฑ์ก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 1 ส.ค.ที่ผ่านมา สหรัฐได้ประกาศแผนการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจีนเป็น 25%
ชอย กล่าวว่า ในขณะที่สหรัฐได้เพิ่มรายชื่อผลิตภัณฑ์ของจีนที่จะมีการจัดเก็บภาษีนั้น ทำให้บริษัทจีนที่มูดี้ส์ได้จัดอันดับความน่าเชื่อถือจำนวนมากขึ้นมีแนวโน้มที่จะได้รับผลกระทบจากห่วงโซ่มูลค่าด้านการผลิต
รายงานที่มูดี้ส์ได้จัดทำภายใต้ชื่อ "Rated non-financial companies — China: More companies are likely to be affected as trade dispute with US escalates" ระบุว่า ผลระทบจากการจัดเก็บภาษีจะขยายวงมากขึ้นเนื่องจากรายชื่อผลิตภัณฑ์มีจำนวนเพิ่มขึ้น โดยบริษัทเหล่านี้จะเผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้นสำหรับสินค้าโภคภัณฑ์ที่ใช้เป็นวัตถุดิบ ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทเหล่านี้เริ่มใช้วิธีการกระจายความเสี่ยง หรือเปลี่ยนไปใช้ผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าจากประเทศอื่นๆนอกเหนือจากประเทศคู่ค้าของตนเอง
การเปลี่ยนแปลงในเรื่องอุปสงค์และอุปทานของสินค้าโภคภัณฑ์บางประเภทจะทำให้เกิดความผันผวนด้านการกำหนดราคา ซึ่งจะทำให้ความสามารถในการคาดการณ์เรื่องรายได้และกระแสเงินสดหมุนเวียนของบริษัทจีนที่มูดี้ส์จัดอันดับนั้น ลดน้อยลงด้วย