มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส เตือนว่า เศรษฐกิจจีนอาจจะไม่ขยายตัวได้มากเท่ากับที่คาดการณ์ไว้ในปีนี้ และคาดว่ารัฐบาลจีนอาจจำเป็นต้องใช้มาตรการกระตุ้นมากขึ้น เพื่อรับมือกับผลกระทบของไวรัสโคโรนาที่มีต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภค โดยมูดี้ส์ระบุว่า ปัจจุบัน เศรษฐกิจจีนมีการพึ่งพาการใช้จ่ายของผู้บริโภคมากขึ้นเมื่อเทียบกับในช่วงที่เกิดการระบาดของโรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรงหรือ SARS ในปี 2546
"การที่เศรษฐกิจจีนหันมาพึ่งพาอุปสงค์ของผู้บริโภคเป็นแรงขับเคลื่อนการเติบโตนั้น ทำให้มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นว่า ผลกระทบของไวรัสโคโรนาที่มีต่อเศรษฐกิจในขณะนี้ จะรุนแรงมากกว่าเมื่อครั้งโรค SARS ระบาดในปี 2546" ทีมวิเคราะห์ด้านความเสี่ยงประเทศของมูดี้ส์เปิดเผยในรายงาน
"การที่ไวรัสโคโรนาแพร่ระบาดก่อนเทศกาลตรุษจีน ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซั่นของการเดินทางท่องเที่ยวและการจับจ่ายใช้สอยนั้น ได้ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อเศรษฐกิจจีน นอกจากนี้ การที่มณฑลหูเป่ยซึ่งเป็นศูนย์กลางด้านการผลิต และเป็นศูนย์กลางการขนส่งที่เชื่อมต่อพื้นที่ชายฝั่งตะวันออกของจีนเข้ากับพื้นที่ตอนกลางและฝั่งตะวันออกตลอดแนวเส้นทางสายไหมทางเศรษฐกิจลุ่มแม่น้ำแยงซีนั้น ยังได้ส่งผลให้เศรษฐกิจในภูมิภาคชะลอตัวลง และทำให้การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนากระจายตัวอย่างรวดเร็ว"
ทั้งนี้ มูดี้ส์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีนจะขยายตัว 5.8% ปีนี้