ค่าเงินเปโซและตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ร่วงลงอย่างหนักในช่วงเช้านี้ หลังจากฟิทช์ เรทติ้งส์ ปรับลดแนวโน้มความน่าเชื่อถือของฟิลิปปินส์ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 กำลังส่งผลให้เศรษฐกิจฟิลิปปินส์มีความเสี่ยงมากขึ้น
ณ เวลา 12.36 น.ตามเวลาไทย ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ร่วงลง 118.74 จุด หรือ -1.72% แตะที่ 6,795.13 จุด ขณะที่ค่าเงินเปโซปรับตัวลง 0.4% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ แตะที่ 50.30 ดอลลาร์
ฟิทช์ เรทติ้งส์ ปรับลดแนวโน้มความน่าเชื่อถือของฟิลิปปินส์ลงสู่ "เชิงลบ" จาก "มีเสถียรภาพ" ซึ่งบ่งชี้ว่า มีโอกาสที่ฟิทช์จะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของฟิลิปปินส์ในอีก 18-24 เดือนข้างหน้า โดยปัจจุบันฟิทช์ให้อันดับความน่าเชื่อถือของฟิลิปปินส์ที่ BBB
การที่ฟิทช์ปรับลดแนวโน้มความน่าเชื่อถือของฟิลิปปินส์ในครั้งนี้ ได้สร้างแรงกดดันต่อรัฐบาลของประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เตที่พยายามลดผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในขณะที่ระบบสาธารณสุขของประเทศกำลังเผชิญวิกฤตการณ์ร้ายแรง
ทั้งนี้ หากฟิทช์ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของฟิลิปปินส์ ก็จะถือเป็นการปรับลดครั้งแรกในรอบ 16 ปี โดยการปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือครั้งหลังสุดเกิดขึ้นเมื่อปี 2548 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ฟิลิปปินส์ในยุคอดีตประธานาธิบดีกลอเรีย มาคาปากัล อาร์โรโย เผชิญกับวิกฤตการณ์ทางการเมือง
ฟิทช์ระบุในแถลงการณ์ว่า การปรับลดแนวโน้มความน่าเชื่อถือของฟิลิปปินส์ในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นว่า ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 กำลังสร้างความเสี่ยงเพิ่มขึ้นต่ออันดับความน่าเชื่อถือของประเทศ และผลกระทบที่ตามมาของการดำเนินนโยบายทั้งในด้านเศรษฐกิจและการคลัง
ฟิทช์คาดว่า รัฐบาลฟิลิปปินส์จะขาดดุลงบประมาณเพิ่มขึ้นเป็น 8.8% ของตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในปีนี้ แต่ยังน้อยกว่าที่รัฐบาลฟิลิปปินส์คาดการณ์ไว้ว่าตัวเลขขาดดุลงบประมาณจะอยู่ที่ 9.4% ของ GDP โดยฟิทช์คาดว่า รัฐบาลฟิลิปปินส์จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ หลังเศรษฐกิจทรุดตัวลงรุนแรงเป็นประวัติการณ์ถึง 9.6% ในปีที่แล้ว