ฟิทช์ เรทติ้งส์ ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของศรีลังกาลงสู่ระดับ C ซึ่งเป็นระดับขยะ ขณะที่สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของศรีลังกาลงสู่ระดับ CC ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดระดับที่ 3 หลังจากศรีลังกาประกาศระงับการชำระหนี้ต่างประเทศเป็นการชั่วคราว
นายแอนดรู วูด และนายไรอัน ยิน นักวิเคราะห์ของ S&P เตือนว่า S&P อาจจะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของศรีลังกาลงสู่ระดับ SD หรือ "ผิดนัดชำระหนี้บางส่วน" (Selective Default) หากสถานการณ์ด้านการชำระหนี้ต่างประเทศของศรีลังกาย่ำแย่ลง
ทั้งนี้ S&P ระบุว่า ศรีลังกามีกำหนดชำระอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรในวันที่ 18 เม.ย. ซึ่งหากศรีลังกาไม่สามารถชำระหนี้ได้ ก็จะส่งผลให้เผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้และอาจต้องมีการปรับโครงสร้างหนี้
การปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือดังกล่าวมีขึ้นหลังจากนายพี นันดาลัล วีระสิงห์ ผู้ว่าการธนาคารกลางศรีลังกาประกาศเมื่อวันที่ 12 เม.ย.ว่า ศรีลังกาได้ตัดสินใจระงับการชำระหนี้ต่างประเทศเป็นการชั่วคราว เพื่อหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ครั้งใหญ่ และธนาคารกลางต้องสำรองเงินตราต่างประเทศไว้เพื่อนำเข้าสินค้าที่จำเป็น เช่น เชื้อเพลิง
"เรามาถึงจุดที่การชำระหนี้เผชิญกับความท้าทายและไม่อาจชำระได้เป็นการชั่วคราว มาตรการที่ดีที่สุดที่เราสามารถใช้ในขณะนี้คือ การปรับโครงสร้างหนี้ และหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ครั้งใหญ่ การดำเนินการดังกล่าวเป็นเพียงชั่วคราว จนกว่าเราจะสามารถตกลงกับบรรดาเจ้าหนี้ได้ และจนกว่าจะได้รับการสนับสนุนเงินกู้จาก IMF ทั้งนี้ เราให้ความสำคัญกับการสำรองเงินไว้เพื่อนำเข้าสินค้าที่จำเป็นและไม่ต้องมากังวลเกี่ยวกับการชำระหนี้ต่างประเทศในช่วงเวลาที่เรากำลังเผชิญกับความยากลำบาก" นายวีระสิงห์กล่าวกับผู้สื่อข่าว
ณ สิ้นเดือนมี.ค. ศรีลังกามีทุนสำรองเงินตราต่างประเทศอยู่เพียง 1.93 พันล้านดอลลาร์ และมีกำหนดชำระหนี้ต่างประเทศในปีนี้มูลค่า 4 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งรวมถึงหนี้พันธบัตรรัฐบาลวงเงิน 1 พันล้านดอลลาร์ที่จะครบกำหนดไถ่ถอนในเดือนก.ค.นี้ ทั้งนี้ ศรีลังกากำลังเผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจที่รุนแรง อันเนื่องมาจากภาวะขาดแคลนทุนสำรองเงินตราต่างประเทศ, เชื้อเพลิง, สินค้าอื่น ๆ ที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต และปัญหาเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น