ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศคงอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐฯ ที่ระดับ AA+ โดยระบุถึงความแข็งแกร่งเชิงโครงสร้าง ซึ่งรวมถึงรายได้ต่อหัวประชากรที่อยู่ในระดับสูง และความยืดหยุ่นทางการเงิน นอกจากนี้ ฟิทช์คาดการณ์ว่าสถานะการคลังโดยรวมของสหรัฐฯ จะยังคงไม่เปลี่ยนแปลง ไม่ว่าใครจะได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีก็ตาม
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า คามาลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้รับเลือกจากพรรคเดโมแครตให้ลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีแข่งกับโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนจากพรรครีพับลิกัน หลังจากประธานาธิบดีโจ ไบเดนประกาศถอนตัวจากการแข่งขันในเดือนก.ค. ขณะที่ผลสำรวจรอยเตอร์/อิปซอสส์ในสัปดาห์นี้บ่งชี้ว่า คะแนนนิยมของแฮร์ริสอยู่ที่ 45% นำหน้าทรัมป์ซึ่งอยู่ที่ 41%
ฟิทช์ระบุในแถลงการณ์ว่า "ผลของการเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 5 พ.ย. 2567 นี้ จะมีความสำคัญต่อนโยบายเศรษฐกิจและการคลังของสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม ฟิทช์เชื่อว่าสถานะทางการคลังพื้นฐานของสหรัฐฯ ส่วนใหญ่จะยังคงไม่เปลี่ยนแปลง แม้ว่ารองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริส และอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะมีเป้าหมายทางเศรษฐกิจ นโยบายภาษี และให้ลำดับความสำคัญในการใช้จ่ายที่แตกต่างกันก็ตาม"
ฟิทช์คาดการณ์ว่า นโยบายการปรับลดภาษีส่วนใหญ่ที่ทรัมป์นำมาใช้ในปี 2560 นั้น จะถูกขยายเวลาบังคับใช้ออกไปไม่ว่าทรัมป์หรือแฮร์ริสจะเป็นฝ่ายชนะการเลือกตั้ง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อรายได้ และมีส่วนทำให้รัฐบาลขาดดุลงบประมาณเพิ่มขึ้น