สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระดับโลกทั้ง 3 แห่ง ซึ่งได้แก่ มูดี้ส์ เรทติ้งส์ (Moody's Ratings), ฟิทช์ เรทติ้งส์ (Fitch Ratings) และเอสแอนด์พี โกลบอล เรทติ้งส์ (S&P Global Ratings) ได้แสดงมุมมองในทิศทางเดียวกันว่า อันดับความน่าเชื่อถือของเกาหลีใต้ยังคงมีเสถียรภาพ แม้เกิดความปั่นป่วนทางการเมืองเมื่อไม่นานมานี้ก็ตาม
กระทรวงเศรษฐกิจและการคลังของเกาหลีใต้เปิดเผยว่า สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือทั้ง 3 แห่งได้ประเมินความน่าเชื่อถือดังกล่าวในระหว่างการประชุมทางไกลร่วมกับชเว ซังมก รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของเกาหลีใต้ในวันนี้ (13 ธ.ค.) โดยเป็นการประชุมแบบแยกกัน
สำนักข่าวยอนฮับรายงานว่า การประชุมดังกล่าวมีขึ้นเพียง 1 สัปดาห์หลังจากประธานาธิบดียุน ซอกยอล ได้ประกาศกฎอัยการศึกในคืนวันอังคารที่ 3 ธ.ค. ก่อนที่จะยกเลิกคำประกาศภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง
ในระหว่างการประชุม ชเวได้เน้นย้ำว่าระบบต่าง ๆ ของรัฐบาลเกาหลีใต้ ซึ่งรวมถึงระบบตลาดและกลไกการจัดการวิกฤตการณ์นั้น ยังคงทำงานตามปกติ พร้อมกับย้ำว่าการยื่นญัตติถอดถอนปธน.ยุนก่อนหน้านี้ ได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจเกาหลีใต้แค่ในกรอบจำกัดเท่านั้น
ทั้งนี้ รัฐสภาเกาหลีใต้ซึ่งครองเสียงข้างมากโดยพรรคฝ่ายค้านนั้น มีกำหนดลงคะแนนเพื่อถอดถอนปธน.ยุนอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ (14 ธ.ค.) หลังจากที่เขารอดพ้นจากการถูกถอดถอนในการโหวตครั้งแรกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เนื่องจากขาดเสียงสนับสนุน
โรแบร์โต ซิฟอน-อเรบาโล ผู้อำนวยการบริหารของเอสแอนด์พีกล่าวว่า เป็นที่น่าสังเกตว่าระบบรัฐบาลของเกาหลีใต้ยังคงทำงานต่อไปได้แม้จะเผชิญกับสถานการณ์ดังกล่าว พร้อมระบุว่า มาตรการติดตามผลของหน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงินนั้น สะท้อนให้เห็นว่าระบบตลาดของเกาหลีใต้มีเสถียรภาพ
ขณะที่ แมรี ดิรอน ผู้อำนวยการบริหารของมูดี้ส์กล่าวว่า ในขณะที่มูดี้ส์กำลังติดตามความคืบหน้าทางการเมืองในเกาหลีใต้อย่างใกล้ชิดนั้น การที่รัฐบาลเกาหลีใต้มีการสื่อสารเชิงรุกกับนักลงทุนทั่วโลกจะส่งผลดีต่ออันดับความน่าเชื่อถือของประเทศ
นอกจากนี้ เจมส์ ลองส์ดอน หัวหน้าฝ่ายความน่าเชื่อถือของฟิทช์กล่าวว่า สถานการณ์การเมืองล่าสุดไม่ได้เป็นภัยคุกคามต่ออันดับความน่าเชื่อถือของเกาหลีใต้ พร้อมกับชื่นชมรัฐบาลที่พยายามอธิบายสถานการณ์อย่างโปร่งใส