ขณะนี้เหลือเวลาอีกเพียง 1 สัปดาห์ก่อนการปิดหน่วยงานของรัฐบาล หากสภาคองเกรสไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกันได้ โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สภาผู้แทนราษฎรได้ตั้งเงื่อนไขสำหรับการจัดสรรเงินในการดำเนินงานหน่วยงานของรัฐบาล ด้วยการให้ตัดเงินสนับสนุนสำหรับโครงการปฏิรูปหลักประกันสุขภาพที่สำคัญของปธน.โอบามา หรือที่เรียกกันโดยทั่วไปว่า โอบามาแคร์
“แนวโน้มสำหรับเศรษฐกิจจะไม่เปลี่ยนแปลง" นายเบอร์นาร์ด บอโมห์ล หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากอิโคโนมิค เอาท์ลุค กรุ๊ป ให้สัมภาษณ์กับซินหัว
“ไม่ว่าจะมีการปิดหน่วยงานของรัฐบาลหรือไม่ เศรษฐกิจโดยรวมก็จะไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว"
นายบอโมห์ลตั้งข้อสังเกตว่า ตลาดได้ปรับตัวรับกับความขัดแย้งทางการเมืองประจำปีของคองเกรสไว้แล้ว และก็เหมือนกับที่เคยเกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะมีการการปิดหน่วยงานรัฐบาลหรือไม่นั้น ก็จะไม่ทำให้เศรษฐกิจหยุดชะงักแต่อย่างใด
ในความเป็นจริงแล้ว นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่จะเกิดวิกฤตในลักษณะดังกล่าว โดยเมื่อปี 2554 คองเกรสและทำเนียบขาวได้เลี่ยงการปิดหน่วยงานรัฐบาลไปได้ในการทำข้อตกลงช่วงนาทีสุดท้ายระหว่างปธน.โอบามาและพรรครีพับลิกัน และในปีที่แล้ว ก็มีการทำข้อตกลงอีกครั้งเพื่อเลี่ยงการปิดหน่วยงานราชการในช่วงเพียง 1 สัปดาห์ ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดี หลังจากที่มีความขัดแย้งกันอย่างหนักระหว่างพรรคเดโมแครตและรีพับลิกัน
“สหรัฐจะไม่มีการปิดหน่วยงานรัฐบาล หรือจะมีการปิดก็ในช่วงเวลาที่สั้นมาก ผมคิดว่าไม่มีโอกาสที่จะเป็นการปิดหน่วยงานรัฐบาลในระยะเวลาที่ยาวนาน เหตุการณ์เช่นนั้นจะไม่เกิดขึ้น"
นายบอโมห์ลกล่าวว่า ผลสำรวจแสดงให้เห็นว่าพรรครีพับลิกันจะถูกตำหนิอย่างหนักง หากรัฐบาลปิดหน่วยงานราชการ และรีพับลิกันจะเผชิญกับความรับผิดชอบทางการเมืองที่รุนแรง
ทั้งนี้ นายมิทช์ แมคแคนเนล ผู้นำเสียงข้างน้อยในวุฒิสภา กล่าวเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่าเขาจะไม่สนับสนุนสมาชิกพรรครีพับลิกันที่ต้องการขัดขวางกฎหมายประกันสุขภาพของปธน.โอบาบา และนี่นับเป็นอุปสรรคประการหนึ่งสำหรับวุฒิสมาชิกเท็ด ครูซ ซึ่งเป็นหัวหอกสำคัญในการเคลื่อนไหวเพื่อยุติการให้เงินสนับสนุนแก่โอบามาแคร์