นายไช่ ไคหลง เลขาธิการของ Internet Finance Club 1000 สาขาวอลสตรีทกล่าวกับซินหัวว่า การเลียนแบบเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ เนื่องจากทั้งสองประเทศมีแนวทางที่แตกต่างกันในภาคธุรกิจดังกล่าว
จีนมีความแตกต่างจากสหรัฐ โดยในสหรัฐการใช้บัตรเครดิตเป็นช่องทางหลักในการชำระเงิน ขณะที่ในจีนนั้น การชำระเงินด้วยบัตรเครดิตยังไม่กว้างขวางมากนัก ซึ่งทำให้มีโอกาสสำหรับผลิตภัณฑ์และการชำระเงินผ่านบุคคลที่ 3 ( third party payment) แบบออนไลน์ ที่ทำหน้าที่ทั้งในการชำระเงินและการลงทุน
นายไช่แนะนำว่าจีนควรเรียนรู้จากประสบการณ์ของอเมริกาในการสร้างกรอบการทำงานเชิงระบบของการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านอินเตอร์เน็ตที่แข็งแกร่งและมีประสิทธิภาพ
การออกแบบผลิตภัณฑ์ค่อนข้างมีความสำคัญในจีน เนื่องจากการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านอินเตอร์เน็ตบนมือถือและสมาร์ทโฟน มีการพัฒนาอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีมานี้ นายไช่กล่าวโดยยกตัวอย่าง ผลิตภัณฑ์ชื่อ Yu'E Bao ของ Alibaba ที่สร้าง Alipay ซึ่งเป็นระบบการขำระเงินออนไลน์
ช่องทางการเข้าสู่ตลาดของผลิตภัณฑ์ทางการเงินผ่านอินเตอร์เน็ตในจีนอยู่ในระดับค่อนข้างต่ำ ขณะที่ในสหรัฐ บริษัทที่ประสงค์เข้าร่วมอุตสาหกรรมดังกล่าว จะต้องมีทุนจดทะเบียนและต้องได้รับการอนุมัติจากรัฐบาล
ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า จีนควรเปิดเผยเดินหน้าข้อมูล พัฒนาระบบสินเชื่อสำหรับบุคคลและองค์กร เพื่อช่วยเพิ่มต้นทุนพื้นฐาน และลดการผิดนัดชำระหนี้ลงในภายหลัง รวมถึงทำให้กฎข้อบังคับต่างๆให้มีความเข้มงวดขึ้น สำหรับบริษัทด้านธุรกรรมทางการเงินผ่านอินเตอร์เน็ตที่จะเข้าสู่ตลาด สำนักข่าวซินหัวรายงาน