นักเศรษฐศาสตร์รายนี้ ซึ่งควบตำแหน่งรองประธานอาวุโสของธนาคารโลก เปิดเผยว่า เมื่อ 6 เดือนก่อน บรรดานักเศรษฐศาสตร์เชื่อว่าเศรษฐกิจโลกจะฟื้นตัวช้าๆและชัดเจน แต่ข้อมูลที่ได้รับไม่กี่เดือนที่ผ่านมาบ่งชี้ว่า การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอาจมีความไม่แน่นอน
การคาดการณ์ดังกล่าวสอดคล้องกับผลการวิจัยล่าสุดของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ซึ่งได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจทั่วโลกสำหรับปี 2557 และ 2558 โดยชี้ว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกนั้นอ่อนแรงและไม่สม่ำเสมอ
นอกจากนี้ นายบาซูยังได้ออกมาเตือนถึงความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจโลกอาจเกิดภาวะชะงักงันอีกครั้ง โดยมองว่าเป็น "ความเสี่ยงที่เราต้องจัดการ"
ประเทศที่เสี่ยงเกิดการชะลอตัวทางเศรษฐกิจได้แก่ ยูโรโซนและญี่ปุ่น โดยนายบาซูคาดว่า ประเทศกลุ่มยูโรโซนนั้นแทบจะไม่มีการขยายตัว
เยอรมนี อันเป็นเสาหลักของภูมิภาค มีการขยายตัวเพียงเล็กน้อย ส่วนประเทศอื่นๆในยูโรโซน เช่น อิตาลี กำลังเผชิญกับภาวะหดตัว และเศรษฐกิจญี่ปุ่นกำลังอยู่ในภาวะชะงักงัน
แม้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มสดใสในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว อีกทั้งมีความคืบหน้าในการลดอัตราว่างงาน แต่เศรษฐกิจสหรัฐก็ยังคงเผชิญกับความอ่อนแรง โดยตัวเลขว่างงานระยะยาวจำนวนมากในสหรัฐกำลังเป็นปัจจัยคุกคามตลาดแรงงาน
นอกเหนือจากความเสี่ยงจากวิกฤตการเงินเมื่อปี 2550 แล้ว โครงสร้างตลาดแรงงานโลกที่กำลังเปลี่ยนไปก็เป็นอีกปัจจัยที่ควรให้ความสำคัญ โดยนักเศรษฐศาสตร์รายนี้ชี้ว่า การสร้างงานนั้นมีความสำคัญต่อทั้งเศรษฐกิจของประเทศพัฒนาแล้วและเศรษฐกิจเกิดใหม่
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีสัญญาณอันตรายอยู่บ้าง แต่เศรษฐกิจโลกก็ยังมีบางส่วนที่ปรับตัวสดใส
เศรษฐกิจสหรัฐดูเหมือนมีการฟื้นตัวจากวิกฤต และกำลังเป็นไปในทิศทางที่ "ค่อนข้าง" ดี โดยมีอัตราขยายตัวเหนือ 2%
นายบาซูมองว่า ตลาดแรงงานสหรัฐนั้นเปิดกว้างและยืดหยุ่น และกลุ่มผู้อพยพจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ นอกจากนี้ เมื่อมองในส่วนของการลงทุนทั่วโลก สหรัฐถือเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลก
สำหรับกลุ่มยูโรโซน นายบาซูเผยว่า ธนาคารกลางยุโรปกำลังดำเนินมาตรการต่างๆ
นักเศรษฐศาสตร์จากธนาคารโลกกล่าวว่า "ขณะที่ยูโรโซนกำลังพยายามดำเนินนโยบายต่างๆเพื่อผลักดันเศรษฐกิจนั้น ภูมิภาคดังกล่าวอาจมีการฟื้นตัวขึ้น"
เศรษฐกิจจีน
นายบาซูได้กล่าวถึงผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก อันเป็นผลมาจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน โดยเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวลงจะส่งผลกระทบต่ออย่างแอฟริกา เยอรมนี และอินเดีย เช่นเดียวกับจุดหมายการลงทุนอื่นๆในต่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม แรงกระตุ้นการขยายตัวส่วนใหญ่จะมาจากเศรษฐกิจเกิดใหม่ อย่างจีนและอินเดีย ในช่วง 15-20 ปีข้างหน้า
เขาคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจีนจะขยายตัว 7.4% ในปีนี้ ซึ่งลดลงเล็กน้อยจากคาดการณ์ก่อนหน้า