นายบาร์เนตให้สัมภาษณ์สำนักข่าวซินหัวเมื่อเร็วๆนี้ว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจจีนชะลอลงสู่ระดับ 7% ในไตรมาสแรก นับเป็นอัตราการขยายตัวต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2552 ซึ่งสอดคล้องกับกรอบคาดการณ์ของ IMF ว่า เศรษฐกิจจีนจะขยายตัว 6.5-7%
"เราคิดว่านี่ถือเป็นการเปลี่ยนผ่านไปสู่สิ่งที่จีนเรียกว่า 'ดุลยภาพใหม่' เราจึงประเมินว่าเศรษฐกิจจีนอยู่ในแนวทางการขยายตัวตัวที่ปลอดภัยและยั่งยืนกว่าเดิม" นายบาร์เนตเปิดเผยนอกรอบการประชุมประจำฤดูใบไม้ผลิของธนาคารโลกและ IMF
รายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลก (WEO) ของ IMF ซึ่งจัดทำขึ้นปีละ 2 ครั้งและมีการเปิดเผยเมื่อวันอังคารที่แล้ว ระบุว่า IMF คาดว่า เศรษฐกิจจีนจะขยายตัวลดลงสู่ระดับ 6.8% ในปี 2558 จาก 7.4% ในปี 2557 และคาดว่าจีนจะขยายตัวลดลงสู่ระดับ 6.3% ในปี 2559
รายงานดังกล่าวเตือนว่า ความเสี่ยงสำคัญของจีนคือ ความล้มเหลวในการดำเนินกรอบการปฏิรูปเพื่อแก้ไขปัญหาความเสี่ยงทางการเงิน การปรับสมดุลเศรษฐกิจ และการเข้าถึงแหล่งทรัพยากรใหม่ๆด้านการขยายตัว
"เรามองว่า เศรษฐกิจจีนจะจะยังคงอยู่ในกรอบที่ปลอดภัยต่อไปในท้ายที่สุด การที่เศรษฐกิจจีนจะสามารถเติบโตได้รวดเร็วเพียงใดนั้นจะขึ้นอยู่กับความสำเร็จของจีนในการเดินหน้าประเด็นการปฏิรูป" นายบาร์เนตกล่าว
นายบาร์เนตได้หยิบยกด้านที่จีนควรเร่งการปฏิรูป ได้แก่ การเปิดเสรีภาคการเงิน การทำให้ภาคเอกชนได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกับบริษัที่รัฐเป็นเจ้าของ และการยกระดับระบบสวัสดิการสังคม
"เราคิดว่าจีนยังมีช่องทางด้านนโยบายที่จะส่งเสริมการขยายตัวหากจำเป็น" นายบาร์เนตตั้งข้อสังเกต โดยระบุว่า ช่องทางหนึ่งก็คือการเร่งปรับลดการจ่ายเงินสมทบสวัสดิการสังคม และช่องทางที่สองเกี่ยวข้องกับการเสริมความแข็งแกร่งแก่ระบบสวัสดิการสังคม
"ปัจจัยดังกล่าวจะช่วยกระตุ้นการบริโภค ด้วยการส่งเสริมตลาดแรงงานและรายได้ ขณะที่เร่งการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการขยายตัวจากเดิมที่เน้นการลงทุน ไปสู่การบริโภค" นายบาร์เนตกล่าว สำนักข่าวซินหัวรายงาน