นายเฮอร์มานน์-พิลลาธให้สัมภาษณ์กับซินหัวว่า ในแง่เศรษฐกิจมหภาค เศรษฐกิจจีนยังคงแข็งแกร่งอย่างมาก หากพิจารณถึงอัตราการขยายตัว เงินเฟ้อ และดุลการชำระเงิน
เขาอธิบายว่า ธนาคารกลางจีนมีอิสระอย่างมากในการที่จะสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะยใกล้ เมื่อพิจารณาถึงเงินเฟ้อที่ต่ำ โดยธนาคารกลางจีนได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยและสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ “ดังนั้น จึงมีการบริหารจัดการนโยบายการเงินที่ดีมาก"
ส่วนระบบการคลังของจีน ซึ่งนักวิเคราะห์บางรายระบุว่าระดับหนี้สินอาจจะเป็นปัญหานั้น นายเฮอร์มานน์-พิลลาธกล่าวว่า “ระบบการคลังของจีนก็มีความแข็งแกร่งอย่างมาก เมื่อเทียบกับกลุ่มประเทศตะวันตกและญี่ปุ่น"
เขากล่าวว่า “รัฐบาลจีนยังคงมีหลายวิธีที่จะหนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจ" ซึ่งรวมถึงนโยบายการเงินและนโยบายการคลัง ที่เป็นเครื่องมือด้านเศรษฐกิจมหภาคที่เป็นมาตรฐาน
สำหรับอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะลอลงในจีนนั้น เขากล่าวว่า ไม่มีเหตุผลที่จะต้องวิตกกังวล เนื่องจากการชะลอลงของการขยายตัวดังกล่าวเป็นสิ่งที่รัฐบาลจีนตั้งเป้าไว้
นักเศรษฐศาสตร์รายนี้กล่าวว่า รัฐบาลจีนต้องการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ซึ่งจะพึ่งพาการบริโภคมากขึ้น แทนการขับเคลื่อนด้วยการลงทุน
นายเฮอร์มานน์-พิลลาธ กล่าวว่า จีนต้องการให้การขยายตัวอยู่ในระดับต่ำลง ขณะที่ให้ความสนใจมากขึ้นกับการปรับปรุงมาตรฐานการดำรงชีวิตของประชาชนและการจ้างงาน
เขากล่าวว่า การลงทุนในจีนเคยอยู่ในระดับสูงมาก ซึ่งไม่มีความยั่งยืน รัฐบาลจีนจึงตัดสินใจลดการลงทุนและเพิ่มการบริโภค โดยทำให้การบริโภคเป็นปัจจัยขับเคลื่อนการขยายตัว “นี่เป็นแนวคิดที่ดีมากและเป็นสิ่งที่ควรทำ"
นอกจากนี้ ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยในเยอรมนีรายนี้ ยังเชื่อว่าการขยายเขตเมืองจะกลายเป็นปัจจัยผลักดันการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนในช่วง 20 ปีข้างหน้า
เขาระบุว่า ยังมีพื้นที่ชนบทที่มีการพัฒนาต่ำจำนวนมากในจีน ซึ่งจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลง ขณะที่จีนมีสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานที่ดี และจะยังคงลงทุนในด้านดังกล่าว ซึ่งมีความสำคัญอย่างมากสำหรับการพัฒนาพื้นที่ที่มีการพัฒนาต่ำ