นายหม่าให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซินหัวว่า "แม้เรามีพนักงานเพียงคนเดียวที่ประจำการอยู่ในรัสเซีย แต่อาลีเอ็กซ์เพรสก็สามารถก้าวขึ้นมาเป็นนเว็บไซต์ค้าขายออนไลน์ที่มีผู้คนเยี่ยมชมมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ในประเทศดังกล่าว"
หลังจากที่มีการเปิดตัวในปี 2553 อาลีเอ็กซ์เพรสได้เปิดช่องทางให้ผู้ซื้อรายย่อยทั่วโลกสามารถซื้อสินค้าปลีกได้ในราคาส่ง
การขยายตัวอย่างรวดเร็วของอาลีเอ็กซ์เพรสในรัสเซียแสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่ระดับสูงและความต้องการของผู้บริโภคสำหรับตลาดอีคอมเมิร์ซในประเทศ
บริษัทมีแผนที่จะลงทุนเพิ่มในด้านทรัพยากรมนุษย์และเทคโนโลยีเพื่อที่จะขยายธุรกิจในรัสเซีย และช่วยเหลือผู้ประกอบการในรัสเซียในการจำหน่ายสินค้าไปยังประเทศจีนและประเทศอื่นๆ ทั่วโลก
นายหม่าได้แสดงความคาดหวังว่า การพัฒนาด้านอีคอมเมิร์ซในรัสเซียจะนำไปสู่การขยายโอกาสสำหรับธุรกิจ SME และการพัฒนาสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานที่เกี่ยวข้อง
ในฐานะที่เป็นหนึ่งในบริษัทอีคอมเมิร์ซที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของจีน อาลีบาบาอาจจะแบ่งปันประสบการณ์ในด้านการดำเนินงานและการจัดการแก่คู่ค้าชาวรัสเซีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการพัฒนาอีคอมเมิร์ซและอินเทอร์เน็ต
ทั้งนี้ ขณะที่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซีย ได้เรียกร้องให้มีการเปิดเสรีทางเศรษฐกิจและเปิดกว้างในตลาดนั้น นายหม่ากล่าวว่า มีโอกาสทางธุรกิจสำหรับผู้ประกอบการรัสเซียและบริษัทของจีน
"ยุคบิ๊ก ดาต้า ประกอบกับการปฏิวัติในด้านอินเทอร์เน็ต จะนำมาซึ่งความท้าทายและโอกาสแก่ทุกประเทศ และถึงเวลาแล้วที่กลุ่มประเทศและภูมิภาคที่กำลังพัฒนาและด้อยพัฒนาจะต้องก้าวตามให้ทัน"
นายหม่าเชื่อว่า การพัฒนาด้านอีคอมเมิร์ซเป็นหนทางหนึ่งที่จะสามารถเปลี่ยนระบบการค้าโลกในปัจจุบันให้เป็นระบบที่โปร่งใสและเปิดกว้างมากขึ้น
บรรดาผู้ประกอบการธุรกิจ SMEs ในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา น่าจะได้รับประโยชน์จากยุคโลกาภิวัฒน์ทางเศรษฐกิจ
นายหม่ามีความคิดเห็นว่า แนวคิดริเริ่ม Belt and Road initiative ของจีน อาจจะช่วยทำลายอุปสรรคทางการค้าตลอดแนวเส้นทางที่มีศักยภาพสูงดังกล่าว และจะทำให้เกิดประโยชน์ที่เป็นรูปธรรมแก่ทุกประเทศที่มีส่วนร่วม
นอกจากนี้ แนวคิดริเริ่มนี้ยังอาจนำไปสู่แนวคิดที่จะสร้าง "เส้นทางสายไหมยุคไซเบอร์"(Cyber Silk Road) ซึ่งจะส่งเสริมด้านอินเทอร์เน็ตและอีคอมเมิร์ซในประเทศต่างๆตลอดแนวเส้นทางดังกล่าวด้วย