Xinhua's Interview: "บิล เกตส์" ให้สัมภาษณ์ซินหัวนอกรอบ WEF ชี้จีนมีบทบาทสนับสนุนนวัตกรรมทั่วโลกมากขึ้น

ข่าวเศรษฐกิจ Monday January 25, 2016 12:05 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บิล เกตส์ ผู้ก่อตั้งบริษัท ไมโครซอฟท์ ได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซินหัวนอกรอบการประชุมเวิลด์ อิโคโนมิค ฟอรั่ม ประจำปี 2559 ว่า จีนจะมีบทบาทมากยิ่งขึ้นต่อนวัตกรรมระดับโลก ด้วยความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าที่จะส่งเสริมด้านวิทยาศาสตร์และการวิจัย

เกตส์ กล่าวว่า จีนอาจจะเข้ามามีบทบาทในการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 (The Fourth Industrial Revolution) ซึ่งจะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและพลิกผันต่ออุตสาหกรรมส่วนใหญ่ และเมื่อกล่าวถึงการปฎิวัติครั้งใหม่แล้ว เกตส์เชื่อว่า การปฏิวัติดิจิตอลจะเป็นปัจจัยที่มีความสำคัญอย่างมหาศาล ซึ่งเป็นสิ่งที่เกตส์ได้ทุ่มเวลาเกือบทั้งชีวิตของตนเองเพื่อสิ่งนี้

การปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 นี้หมายถึงการเปลี่ยนโฉมสังคมและเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นอยู่ในปัจจุบัน โดยได้รับแรงผลักดันจากความก้าวหน้าด้านปัญญาประดิษฐ์ หุ่นยนต์ ยานยนต์อัตโนมัติ ระบบการพิมพ์แบบ 3 มิติ นาโนเทคโนโลยี และวิทยาศาสตร์สาขาต่างๆ โดยสิ่งสำคัญที่ผลักดันเทคโนโลยีใหม่ๆเหล่านี้ก็คือ อินเทอร์เน็ต ซึ่งไมโครซอฟท์และเกตส์ได้มีส่วนร่วมผลักดันให้เกิดความก้าวหน้า "การปฏิวัติอุตสาหกรรมกำลังจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตได้อย่างมหาศาล รวมทั้งสร้างโอกาสและความท้าทายในด้านต่างๆนานา" เกตส์กล่าว

การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีใหม่ๆช่วยลดการใช้แรงงาน ดังนั้น ผู้คนก็จะมีโอกาสทำงานในส่วนวัฒนธรรมากขึ้น จีนเองก็สามารถพัฒนาความได้เปรียบทั้งด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีผ่านทางระบบการศึกษาของประเทศ ซึ่งจีนมีความมุ่งมั่งที่จะส่งเสริมและให้ความร่วมมือในภาควิทยาศาสตร์ในด้านต่างๆ "เห็นได้ชัดว่าจีนนั้นมีประชากรจำนวนมากและประชากรเหล่านี้ยังชาญฉลาด ไม่เพียงแต่ประชากรจำนวนมากที่ได้รับการศึกษาระดับวิทยาลัย แต่จีนยังมีวิศวกรจำนวนมากที่มีคุณภาพและทักษะด้านวิศวกรรม ผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากจึงมีโอกาสที่จะบริหารบริษัทใหม่ในภาคไอที ชีววิทยา หุ่นยนต์ และอื่นๆ เนื่องจากประชากรเหล่านี้มีความสามารถที่จะทำในสิ่งที่ตนเองสมควรจะได้รับรางวัลได้ ซึ่งจีนก็กำลังจะมีบทบาทในเรื่องนี้ โดยในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เกตส์ได้ทุ่มเทในด้านการผลักดันนวัตกรรมในภาคการพัฒนาและสุขภาพของประเทศต่างๆทั่วโลก

ในฐานะที่เป็นประธานร่วมของมูลนิธิบิล แอนด์ เมลินด้า เกตส์นั้น เกตส์ตัดสินใจว่าจะร่วมมือกับมหาวิทยาลัยซิงหัวของจีนในการจัดตั้งสถาบันการคิดค้นยาระดับโลกขึ้นที่ปักกิ่งในระหว่างที่เข้าร่วมการประชุมที่เมืองดาวอส "จีนมีความก้าวหน้าอย่างไม่น่าเชื่อในการลดความยากจน รวมทั้งมีส่วนร่วมในการผลักดันให้เกิดความก้าวหน้าในด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อที่จะรับมือกับสถานการณ์ที่ท้าทายในด้านสุขภาพซึ่งส่งผลกระทบต่อประชากรที่ยากจนที่สุดในโลก" เกตส์กล่าว

"เราตื่นเต้นเกี่ยวกับศักยภาพของสถาบันฯดังกล่าวที่จะผลักดันนวัตกรรมในด้านการวิจัยและพัฒนาด้านสุขภาพระดับโลก และตั้งใจที่จะร่วมมือกับมหาวัทยาลัยซิงหัวเพื่อที่จะรับมือกับความท้าทายด้านสุขภาพในระดับโลก" เกตส์กล่าว โดยในบทความที่ได้มีการเผยแพร่ในช่วงการประชุม WEF นั้น เกตส์ให้คำมั่นว่า มูลนิธิของเขาจะลงทุนมากขึ้นในด้านนวัตกรรมในอนาคต และยังได้กล่าวกับซินหัวว่า การลงทุนไปกับนวัตกรรมของจีนคาดว่าจะค่อยๆเพิ่มสูงขึ้น

เมื่อผู้สื่อข่าวถามด้วยว่า เกตส์กังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจจีนหรือไม่ เพราะอาจจะส่งผลกระทบต่อความก้าวหน้าด้านนวัตกรรม เกตส์ กล่าวว่า เขาค่อนข้างจะมองมุมบวกเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจของจีน

"ผมเชื่อมั่นในจีนเป็นอย่างยิ่ง ส่วนหนึ่งเนื่องจากจีนมีวิสัยทัศน์ไกล และจีนเป็นประเทศที่จับตาดูว่าประเทศอื่นๆกำลังทำอะไร" เกตส์กล่าว

แม้ว่าจะต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจที่มุ่งไปสู่ทิศทางใหม่ๆ เกตส์มองว่า จีนมีศักยภาพสูงที่จะบรรลุเป้าหมายของประเทศ "ประเทศส่วนใหญ่คงจะอิจฉาที่เศรษฐกิจจีนสามารถขยายตัวได้ถึง 6.9% แต่ผมคิดว่าจีนมีอนาคตที่สดใส และจีนเองก็จะมีบทบาทมากขึ้นในนวัตกรรมระดับโลก" เกตส์ กล่าว สำนักข่าวซินหัวรายงาน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ