นายคาซุฮิโระ สึกะ ประธานบริษัทพานาโซนิค เปิดเผยที่กรุงปักกิ่งว่า แม้ว่าสื่อญี่ปุ่นบางรายจะรายงานมุมมองเชิงลบต่อเศรษฐกิจจีน แต่ทุกครั้งที่เขาเดินทางเยือนประเทศจีน เขาจะรู้สึกประทับใจต่อเศรษฐกิจจีนที่มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว
นายสึกะให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซินหัวในระหว่างเข้าร่วมการประชุมธุรกิจที่กรุงปักกิ่งว่า ตลาดและรัฐบาลจีนมีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจจีนอย่างต่อเนื่อง และเศรษฐกิจจีนมีศักยภาพที่แข็งแกร่งมาก เนื่องจากจีนมีประชากรจำนวนมหาศาลและมีตลาดขนาดใหญ่มโหฬาร
ทั้งนี้ นายสึกะ วัย 59 ปี ได้เดินทางเยือนจีน 8 ครั้งนับตั้งแต่ขึ้นเป็นผู้นำของบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีของญี่ปุ่นแห่งนี้เมื่อ 4 ปีก่อน
ประธานพานาโซนิคเปิดเผยว่า เขารู้สึกประทับใจกับพัฒนาการของรถไฟความเร็วสูงของจีน ซึ่งรุดหน้าไปไกลกว่าญี่ปุ่นหลายเท่า ทั้งยังช่วยผลักดันการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้องในจีนด้วย
นายสึกะมีมุมมองเชิงบวกมากต่อการเติบโตของรถยนต์พลังงานทดแทนในจีน และมองว่าน่าจะมีอนาคตสดใส เนื่องจากจีนใช้มาตรฐานคุ้มครองสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดขึ้น
นายสึกะคาดว่า รถยนต์พลังงานทดแทนจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในจีน และจะนำไปสู่การพัฒนาอุตสาหกรรมนี้ทั่วโลก
“พานาโซนิคมีส่วนสนับสนุนโครงการต่างๆในจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม" เขากล่าว
ทั้งนี้ พานาโซนิคกำลังจะครบรอบ 1 ศตวรรษในปี 2561 และอยู่ในระหว่างการเปลี่ยนภาพลักษณ์ที่จากเดิมเป็นเพียงผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน ไปสู่การรุกคืบในธุรกิจใหม่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ทางบริษัทกำลังให้ความสนใจในขณะนี้ นับตั้งแต่ดำรงตำแหน่งประธานพานาโซนิคในเดือนมิ.ย. 2555 นายสึกะได้ตัดสินใจธุรกิจการผลิตจอพลาสมา และพลิกจุดสนใจไปที่ยานยนต์และบริการอุปกรณ์ติดรถยนต์ ที่พักอาศัย และธุรกิจเพื่อภาคธุรกิจ (B2B) จึงช่วยให้พานาโซนิคนำหน้าผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้ารายอื่นๆในญี่ปุ่นในการพลิกธุรกิจ
ประสบการณ์ที่ผ่านมาของพานาโซนิคสะท้อนให้เห็นว่า การพลิกธุรกิจจะต้องดำเนินด้วยความฉับไว ยิ่งในยุคโลกาภิวัตน์เช่นนี้ ธุรกิจที่ไม่มีข้อได้เปรียบด้านเทคโนโลยีอาจถูกบีบโดยคู่แข่งที่มีศักยภาพสูงกว่า
ในส่วนของแผนพัฒนาธุรกิจของพานาโซนิค นายสึกะเปิดเผยว่า บริษัทจะให้ทีมงานต่างประเทศมีบทบาทมากขึ้น เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนความสามารถทั่วโลกซึ่งจะสนับสนุนการพัฒนา และเพื่อให้เกิดการสร้างกลไกที่สนับสนุนการรับมือกับความเปลี่ยนแปลงในทุกๆด้าน สำนักข่าวซินหัวรายงาน