นายเอตตอเร เกรโค ผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ซึ่งตั้งอยู่ในกรุงโรม ได้กล่าวให้สัมภาษณ์ต่อสำนักข่าวซินหัวว่า สถานการณ์ด้านการเมืองของอิตาลีจะยังคงมีความไม่แน่นอนต่อไปในอีกหลายเดือนข้างหน้า อันเป็นผลมาจากการประกาศลาออกของนายกรัฐมนตรีมัตเตโอ เรนซี เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. หลังจากข้อเสนอในการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญของรัฐบาลไม่ผ่านประชามติ
นายเกรโคกล่าวว่า "ประเทศอิตาลีอาจมีการจัดการเลือกตั้งใหม่ แต่เพราะเป็นรัฐบาลใหม่ จึงอาจทำให้สถาบันการเมืองของอิตาลียังคงขาดเสถียรภาพ"
ทั้งนี้ หลังจากเกิดวิกฤตทางการเมืองเพียงไม่นาน ประธานาธิบดีแซร์โจ มัตตาเรลลา จึงได้ตัดสินใจแต่งตั้งนายเปาโล เจนติโลนี อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศและสมาชิกพรรคของนายเรนซี ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของอิตาลี
อย่างไรก็ตาม แม้ว่านายเจนติโลนีจะยังคงตำแหน่งรัฐมนตรีชุดเดิมเอาไว้ในหลายตำแหน่ง แต่นายเกรโคกลับมองว่า รัฐบาลชุดใหม่ของนายเจนติโลนีอาจต้องเผชิญกับความท้าทายทางการเมืองที่ยิ่งใหญ่กว่ารัฐบาลชุดก่อนหน้า
"รัฐบาลของนายเรนซี เคยเผชิญกับความยากลำบากในช่วงการปฏิรูป แต่รัฐบาลชุดใหม่นี้อาจต้องเผชิญกับความยากลำบากมากขึ้นไปอีก เนื่องจากมีความอ่อนแอทางการเมือง และขาดบุคคลที่ดูเหมาะสมอย่างนายเรนซี" เกรโค่กล่าว
นอกจากนี้ รัฐบาลใหม่ยังต้องเผชิญกับปัญหาใหญ่ด้านโครงสร้างอีก 2 เรื่อง ได้แก่ความเปราะบางของระบบธนาคารในอิตาลีซึ่งเพิ่งเกิดขึ้นในปีนี้ และปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการใช้จ่ายเงินของรัฐ ทำให้ผู้เชี่ยวชาญต่างหวั่นวิตกว่า รัฐบาลจะให้การช่วยเหลือภาคธนาคารหรือไม่ หรือผลักภาระส่วนหนึ่งให้แก่ผู้ถือพันธบัตรของธนาคาร ซึ่งจะทำให้ประชาชนบางส่วนไม่พอใจอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญยังมองไม่เห็นถึงสัญญาณที่จะเกิดวิกฤตการด้านการเงินร้ายแรง หรือภาวะตลาดล้มเหลวในอิตาลี แม้ว่าจะมีความเปราะบางอยู่บ้างก็ตาม เช่นความอ่อนแอในตลาดหุ้นและหุ้นภาคธนาคาร รวมถึงการไหลออกของเงินทุนเพียงเล็กน้อย
"หากสถานการณ์ในยุโรปและในหลายประเทศยังคงไม่เปลี่ยนแปลง สถานการณ์ในอิตาลีก็อาจยังคงดำเนินต่อไป และถ้าหากมีความผันผวนหรือถูกแทรกแซงจากปัจจัยภายนอก อิตาลีอาจเผชิญความเสี่ยงมากขึ้นกว่าเดิม" นายเกรโคกล่าว