นายโจ เคเซอร์ ประธาน และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของบริษัทซีเมนส์ กลุ่มบริษัทยักษ์ใหญ่สัญชาติเยอรมนี ได้แสดงความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจจีน พร้อมกล่าวว่า แผนพัฒนาเศรษฐกิจระยะเวลา 5 ปีของจีนถือเป็นเครื่องมือสำคัญที่สามารถแก้ไขอุปสรรคต่างๆ
"ในขณะที่เศรษฐกิจโลกมีการขยายตัวเพียง 2.6-2.7% แต่อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนกลับแข็งแกร่งถึง 6.5 - 7% ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดี" นายเคเซอร์กล่าวในระหว่างการประชุมเศรษฐกิจโลก (WEF) ที่เมืองดาวอส
ทั้งนี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เปิดเผยข้อมูลเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า เศรษฐกิจจีนปี 2559 ขยายตัวที่ระดับ 6.7% เทียบรายปี พร้อมเพิ่มเติมว่าตัวเลขดังกล่าวนับเป็นการเริ่มต้นที่ดี ในการบรรลุสู่เป้าหมายการเติบโตของเศรษฐกิจรายปีที่ระดับต่ำสุด 6.5% ในช่วงของการบังคับใช้แผนพัฒนาเศรษฐกิจฉบับที่ 13 ระหว่างปี 2559 - 2563
อย่างไรก็ดี เคเซอร์ชี้ให้เห็นถึงความท้าทายที่จีนจะต้องเผชิญกับการปฏิรูปที่จะเปลี่ยนผ่านประเทศจากการพัฒนาเศรษฐกิจไปสู่ผู้นำแถวหน้าของโลก
"จีนจะต้องปฏิรูปเทคโนโลยีระดับปลายน้ำ เช่นการทำเหมืองแร่, อุตสาหกรรมเหล็ก, การต่อเรือ และอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ นี่คือสิ่งจำเป็นเพื่อให้จีนสามารถพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีต้นน้ำได้" นายเคเซอร์กล่าว
เขาเพิ่มเติมว่าภารกิจดังกล่าวนับเป็นความท้าทายอย่างมาก เนื่องจากมีคนจำนวนมากข้องเกี่ยวกับอุตสหกรรมเหล่านี้ รวมถึงต้องส่งผ่านองค์ความรู้สู่คนรุ่นต่อไป
ทั้งนี้ ซีเมนส์เป็นผู้จัดหาบริการต่าง ๆ รวมถึงระบบอุตสาหกรรมอัตโนมัติ, เทคโนโลยีการก่อสร้าง, เทคโนโลยีด้านการขับขี่, พลังงาน, การดูแลสุขภาพ และการเปลี่ยนแปลง
"เรามีความมุ่งมั่นที่จะนำซอฟแวร์การผลิตอันทันสมัยมาสู่อุตสาหกรรมการผลิตของจีน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้ดียิ่งขึ้น" เคเซอร์ทิ้งท้าย
บทสัมภาษณ์โดย Deng Qian, Zhang Miao และ Jeremy Allan Hawkins จากสำนักข่าวซินหัว