ศูนย์วิเทศสัมพันธ์สหรัฐ-จีน และศูนย์วัฒนธรรมจีนทศวรรษที่ 21 แห่งมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียซานดิเอโก ได้ทำการรวบรวมความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญด้านประเทศจีนและสหรัฐประมาณ 20 คน ทั้งอดีตเจ้าหน้าที่ภาครัฐ นักวิชการ และนักวิจัย โดยนักวิจัยเหล่านี้ต่างก็เรียกร้องให้นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานธิบดีสหรัฐ ทบทวนนโยบายเกี่ยวกับประเทศจีน รวมถึงส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ
รายงานดังกล่าวมีใจความว่า แนวโน้มโดยรวมของความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีนซึ่งมีมาตั้งแต่ปี 2522 นั้นเป็นไปในเชิงบวก โดยนางซูซาน เชิร์ค ประธานร่วมในโครงการดังกล่าว ระบุว่า จีนมีอิทธิพลในสังคมโลกมากขึ้นเรื่อยๆ นับตั้งแต่วิกฤติการเงินโลกในปี 2551
รายงานดังกล่าวยังให้คำแนะนำเกี่ยวกับแนวทางการดำเนินงานของสหรัฐในภายภาคหน้า ที่จะรักษาผลลัพธ์เชิงบวกของความสัมพันธ์อันมั่นคงกับจีนไว้ รวมถึงรักษาผลประโยชน์ในหลายๆ ด้านของประเทศเป็นสำคัญ"
นางซูซาน เชิร์คกล่าวเพิ่มเติมว่า "ประธานาธิบดีทรัมป์ไม่ได้ให้ความสำคัญกับรายงานของนักวิจัยเท่าใดนัก ดิฉันจึงไม่แน่ใจว่าคณะทำงานของท่านประธานาธิบดีจะอ่านรายงานฉบับนี้หรือไม่เสียด้วยซ้ำ"
ทั้งนี้ รายงานฉบับดังกล่าวมุ่งเน้นใน 6 ประเด็นหลักที่คณะรัฐบาลชุดใหม่ของสหรัฐควรดำเนินการในทันที อาทิ ความร่วมมือกับประเทศจีนเพื่อยุติการทดลองขีปนาวุธ และอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ, การสนับสนุนและขยายความร่วมมือในประเด็นการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมถึงการรับรองข้อตกลงต่าง ๆ ของสหรัฐที่มีต่อทวีปเอเซีย
สำหรับความคิดเห็นต่อการที่ประธานาธิบดีทรัมป์ถอนชื่อสหรัฐออกจากข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (TPP) เมื่อเดือนที่แล้วนั้น นางเชิร์คกล่าวว่าเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดอย่างใหญ่หลวง โดยอธิบายว่า เดิมทีนั้น ทางคณะกรรมการผู้ดำเนินโครงการพยายามผลักดันให้รัฐบาลของทรัมป์ร่วมมือกับประเทศจีน รวมถึงพัฒนาแนวทางให้จีนเข้าร่วมในข้อตกลงดังกล่าว ทว่าตอนนี้สหรัฐได้ถอนตัวออกมาแล้ว และการจะกลับเข้าไปใหม่ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เลย
บทสัมภาษณ์โดย สำนักข่าวซินหัว