เมื่อวันที่ 10 มี.ค. ที่ผ่านมา ศาลรัฐธรรมนูญเกาหลีใต้ได้มีมติถอดถอน ปาร์ค กึน เฮ ออกจากตำแหน่งประธานาธิบดี หลังจากวินิจฉัยว่า ปาร์คได้ใช้อำนาจในทางมิชอบ และปล่อยให้บุคคลภายนอกเข้ามาก้าวก่ายกิจการของรัฐ
คำพิพากษาของศาลมีขึ้นหลังจากที่รัฐสภามีมติถอดถอนปาร์ค เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. โดยปาร์คได้กลายเป็นประธานาธิบดีเกาหลีใต้คนแรกที่ถูกถอดถอนขณะดำรงตำแหน่ง
นายจาง ซอก จุน รองประธาน Future Politics Center ซึ่งเป็นหน่วยงานวิจัยแห่งหนึ่งในเกาหลีใต้ ให้สัมภาษณ์ต่อสำนักข่าวซินหัวว่า "การถอดถอนปาร์คนั้นชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากมีปัจจัยสนับสนุนที่เพียงพอ และได้แรงขับเคลื่อนหลักมาจากประชาชน"
ทั้งนี้ เกาหลีใต้จะต้องจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีคนใหม่ภายใน 60 วันหลังจากที่ปาร์คถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งอย่างเป็นทางการ ซึ่งคาดว่าจะมีการเลือกตั้งใหม่ในวันที่ 9 พ.ค. โดยในระหว่างนี้ นายฮวาง คโย อัน นายกรัฐมนตรี จะทำหน้าที่รักษาการประธานาธิบดี
โดยในการเลือกตั้งครั้งนี้ นายฮวางดูมีภาษีดีที่สุดในบรรดาผู้สมัครอิสระ อย่างไรก็ตาม นายฮวางไม่น่าจะเป็นผู้ชนะ เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่มองว่า ชัยชนะของนายฮวางจะเป็นเพียงการส่งต่ออำนาจของผู้นำคนก่อนเท่านั้น โดยผลสำรวจชี้ให้เห็นว่า คะแนนความนิยมของนายฮวางนั้นอยู่ที่ 10-15% เท่านั้น เนื่องจากนายฮวางเป็นหนึ่งในบุคคลสนิทของปาร์ค กึน เฮ
นอกจากนี้ แม้นักการเมืองบางส่วนจากพรรคเสรีนิยม ซึ่งเป็นพรรครัฐบาล จะถอนตัวออกไปเพื่อก่อตั้งพรรคใหม่ในนามของพรรคชอบธรรม หรือ "Righteous Party" เพื่อแสดงให้เห็นจุดยืนที่แตกต่างจากพรรคเดิม แต่ความนิยมในตัวสมาชิกพรรคใหม่นี้ยังคงมีไม่มากเท่าไรนัก
ด้วยเหตุนี้เอง ตัวแทนที่ชนะในการหยั่งเสียงขั้นต้นภายในพรรคมินจู ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้าน จึงกลายเป็นผู้ที่มีโอกาสคว้าเก้าอี้ประธานาธิบดีไปครองมากที่สุด โดยในการสำรวจความคิดเห็นล่าสุด ปรากฏว่า ผู้สมัครหลักทั้ง 3 คนจากพรรคมินจูได้กวาดคะแนนสนับสนุนจากประชาชนรวมกันถึงเกือบ 60%
นายจางกล่าวว่า "หากผู้ชนะการเลือกตั้งมาจากพรรคมินจู ไม่ว่าผู้ใดก็ตาม จะต้องเผชิญกับความท้าทายอย่างหนัก เมื่อพิจารณาจากโครงสร้างของรัฐสภา" และคาดว่าจะมีความขัดแย้งเกิดขึ้น ระหว่างรัฐบาลชุดใหม่ที่เน้นปฏิรูป กับพรรคการเมืองเดิมที่มีแนวทางอนุรักษ์นิยม