นายเอ็นริเก ดัสเซล ปีเตอร์ส ผู้ประสานงานประจำศูนย์การเรียนรู้จีน-เม็กซิโก (Cechimex) แห่งมหาวิทยาลัยเสรีแห่งชาติเม็กซิโก (UNAM) กล่าวว่า การเจรจาข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (NAFTA) ร่วมกับสหรัฐ จะเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้เม็กซิโกมีโอกาสได้รับประโยชน์ "มหาศาล"
ดัสเซลมองว่า การพูดคุยครั้งนี้จะช่วยแปลงโฉมความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศที่ไม่ค่อยสู้ดีนักในระยะหลัง ให้กลับมาแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น แม้ว่า นายเอ็นริเก เปนญา นิเอโต ประธานาธิบดีเม็กซิโก จะเคยปฏิเสธคำขอเจรจาจากฝั่งของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ไปแล้วครั้งหนึ่งก็ตาม
"จะเกิดอะไรขึ้นหากเราพูดคุยกับทรัมป์อย่างจริงจัง เพื่อหารือเกี่ยวกับการขยายความร่วมมือในข้อตกลง NAFTA ซึ่งผมเชื่อว่าจะทำให้เม็กซิโกได้รับประโยชน์และสามารถยื่นข้อเสนอจากฝั่งของตนเองได้" ดัสเซลกล่าว
ความตกลง NAFTA นี้ ถูกบังคับใช้ในปี 2537 โดยเป็นการตั้งเขตการค้าเสรีระหว่างเม็กซิโก สหรัฐ และแคนาดา ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อลดต้นทุนด้านการส่งออก ทำให้ผู้ผลิตและผู้บริโภคต่างแบกรับภาระน้อยลง แต่กลับทำให้ตำแหน่งงานในสหรัฐลดลงด้วยเช่นกัน เนื่องจากผู้ประกอบการต่างหันไปลงทุนตั้งโรงงานในเม็กซิโก เพราะสามารถจ่ายค่าแรงในอัตราที่ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับในสหรัฐ
"ผลการเจรจาครั้งนี้มีความเป็นไปได้หลายรูปแบบ โดยทั้ง 3 ประเทศอาจจะสามารถหาจุดยืนร่วมที่ทุกฝ่ายยอมรับ หรือหากแย่ที่สุดก็อาจจะเป็นการยกเลิกข้อตกลดังกล่าวเสีย" ดัสเซลกล่าว
"หากทรัมป์ต้องการเพิ่มปริมาณการจ้างงานและการลงทุนในสหรัฐ เม็กซิโกก็สามารถเสนอในสิ่งเดียวกันได้ เราสามารถเสนอได้ว่าเราก็ต้องการการจ้างงาน เทคโนโลยี และการส่งออกที่มากขึ้นเช่นกัน และมาหาทางออกว่า สมาชิกทั้งหมดจะทำอย่างไรเพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายร่วมกันได้"
อย่างไรก็ตาม หากการเจรจาล้มเหลว และความตกลง NAFTA เป็นอันต้องถูกยกเลิก ดัสเซลมองว่า สิ่งที่เม็กซิโกจะต้องเผชิญนั้น อาจไม่เลวร้ายถึงขึ้นที่ทุกคนคิด
"หากการเจรจาล้มเหลว ทำให้จำเป็นต้องมีการยกเลิกข้อตกลง NAFTA สิ่งที่เม็กซิโกจะต้องเผชิญก็คือการเสียภาษีมากขึ้นกว่าเดิมเมื่อมีการส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐ และไม่ทำให้ประเทศถึงขั้นพังพินาศแน่นอน" ดัสเซลกล่าว
ในปี 2559 เม็กซิโกได้เสียภาษีให้แก่สหรัฐในสัดส่วน 0.12% เมื่อมีการส่งออกสินค้า ซึ่งหากข้อตกลง NAFTA ถูกยกเลิก จะทำให้เม็กซิโกต้องเสียภาษีราว 3.25% เมื่อส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐ
ทั้งนี้ ดัสเซลเชื่อว่า เม็กซิโกควรเจรจาต่อรองกับสหรัฐ เพื่อยื่นข้อเสนอที่ต้องการกลับไป โดยเฉพาะข้อเสนอที่จะช่วยพยุงกิจการของผู้ผลิตสินค้าประเภทเกษตรกรรม ของเล่นเด็ก เฟอร์นิเจอร์ เสื้อผ้าและรองเท้าที่เป็นของเม็กซิโกเอง หลังจากที่ข้อตกลง NAFTA ทำให้ผู้ประกอบการเหล่านี้ ไม่สามารถแข่งขันได้ทัดเทียมเท่ากับบริษัทสัญชาติอเมริกันที่เข้ามาตั้งบริษัทในเม็กซิโกมานานกว่า 20 ปี
เอดนา อัลแคนทารา, เพย เจียนรง จากสำนักข่าวซินหัวรายงาน