ผู้เชี่ยวชาญของสหภาพยุโรป (EU) ได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซินหัวเมื่อเร็วๆนี้ว่า วิสัยทัศน์ของนายเอ็มมานูเอล มาครอง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส และนายฌอง คล็อด ยุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) นั้น ถึงแม้จะดูมีวิสัยทัศน์และเป็นประโยชน์ แต่ก็ยังไร้ซึ่งแผนการณ์ที่ชัดเจนและเป็นแบบแผน
การกล่าวสุนทรพจน์ที่ดีงามของนายมาครองเมื่อวันที่ 26 ก.ย.ที่ผ่านมาที่มหาวิทยาลัยซอร์บอนในกรุงปารีส รวมทั้งการกล่าวสุนทรพจน์ต่อรัฐสภาของนายยุงเกอร์เมื่อวันที่ 13 ก.ย.นั้น กิลส์ เมอร์ริท ประธานสถาบัน Friends of Europe ในกรุงบรัสเซลส์ กล่าวว่า ผู้นำทั้ง 2 รายได้กำหนดแนวทางที่จะดำเนินการ แต่ไม่ได้พูดชัดเจนถึงวิธีการที่จะไปตามแผนดังกล่าว
นายมาครองได้ออกมาเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างลึกซึ้งในสหภาพยุโรปในระหว่างกล่าวสุนทรพจน์อย่างยาวนาน และได้แนะนำให้มีการร่วมมือด้านการทหารมากยิ่งขึ้น ตลอดจนการจัดตั้งรัฐมนตรีคลัง งบประมาณ และรัฐสภาของกลุ่มยูโรโซนขึ้นมา
ผู้นำฝรั่งเศสยังได้กล่าวสุนทรพจน์ถึงการเลือกตั้งของเยอรมนีด้วยเช่นกันว่า จะเกิดข้อผิดพลาดตามมา หลังจากที่พรรคทางเลือกเพื่อเยอรมนี (AFD) ซึ่งเป็นพรรคการเมืองขวาจัดสามารถดึงที่นั่งในรัฐสภาได้ด้วยเช่นกัน
เมื่อเดือนก.ย.ที่ผ่านมา นายยุงเกอร์ได้กล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมประจำปีถึงอนาคตของยุโรป นายยุงเกอร์ได้สนับสนุนรายงานของคณะกรรมาธิการยุโรปที่ได้มีการเปิดเผยเมื่อเดือนมี.ค.ในประเด็นเรื่องความรวดเร็วในการดำเนินการของยุโรป อย่างไรก็ดี นายยุงเกอร์ไม่เห็นด้วยกับการผนวกรวมกลไกการทำหน้าที่ในทุกขอบเขตของยุโรป
ผู้นำทั้ง 2 รายนี้ มีความเห็นไปในแนวทางเดียวกัน เมื่อพูดถึงเรื่องการผนวกรวมด้านกลาโหมของยุโรป และการยกระดับการบริหารจัดการเรื่องการอพยพเข้าเมืองของผู้ลี้ภัย
อย่างไรก็ดี นายยุงเกอร์มีความคิดเห็นที่แตกต่างจากนายมาครองในเรื่องการจัดตั้งงบประมาณและรัฐสภาของกลุ่มยูโรโซน โดยชี้ว่า สกุลเงินยูโรนั้นถูกกำหนดมาให้เป็นสกุลเงินของกลุ่ม EU อยู่แล้ว และรัฐสภายุโรปเองก็เป็นหน่วยงานด้านกฎหมายเพียงหนึ่งเดียวในกลุ่มยูโรโซน
เมอร์ริทได้ชื่นชมวาระของผู้นำทั้ง 2 รายในช่วงเวลาที่สำคัญว่า ยุโรปนั้นต้องการวาระที่จะสามารถดำเนินการผนวกรวมกันได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
แต่ถึงกระนั้น นายเมอร์ริทเองก็ไม่ได้กล่าวโทษวิสัยทัศน์ของผู้นำทั้ง 2 รายนี้ไปเสียทั้งหมด โดยกล่าวว่า เมื่อใดที่คุณเสนอให้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวงในโครงสร้างของโครงการของ EU คุณจะต้องมาพร้อมกับรายละเอียดต่างๆ
เมื่อกล่าวถึงประเด็นเรื่องข้อเสนอในการปฏิรูปยูโรโซนของนายมาครองแล้ว นายเมอร์ริท มองว่า ข้อเสนอดังกล่าวเป็นหนทางที่ยุโรปควรจะทำตาม เพราะเป็นแนวคิดที่ดีแต่เราต้องมีแผนการณ์ที่ชัดเจนและเป็นระบบ
"ช่องว่างระหว่างยุโรปและใต้ใน EU นั้น กำลังขยายวงกว้างมากขึ้น และนี่ถือเป็นเรื่องที่อันตรายมากสำหรับความเป็นปึกแผ่นของยุโรป เพราะนั่นหมายความถึงการสร้างกลไกในการกำกับดูแลขึ้นมาใหม่ที่จะทำให้ชาวเยอรมันสามารถจับตาความเคลื่อนไหวของงบประมาณของประเทศได้ว่า ถูกหยิบจับไปใช้สอยอย่างไร" ที่ผ่านมา เยอรมนีกังวลเกี่ยวกับประเทศสมาชิกบางประเทศที่ไร้ซึ่งความรับผิดชอบและไร้ซึ่งความกังวลเกี่ยวกับการนำเงินช่วยเหลือด้านสวัสดิการสังคมไปใช่จ้ายอย่างสุรุ่ยสุร่าย
เมอร์ริท กล่าวต่อไปว่า การมีรัฐสภาแห่งยูโรโซนั้นเป็นเรื่องที่ดี แต่โครงสร้างใหม่ของ EU ยังเป็นเรื่องที่ต้องดำเนินการ
เมื่อมองถึงวิสัยทัศน์ของนายยุงเกอร์ที่มีต่อยุโรปแล้ว นายเมอร์ริท กล่าวว่า สุนทรพจน์ของยุงเกอร์ที่ได้กำหนดไว้ว่า จะเดินทางไปที่ใดนั้น แต่ก็ไม่ได้บอกว่า จะเดินทางไปถึงจุดหมายนั้นได้อย่างไร
"สุนทรพจน์ของเขานั้นถือเป็นชัยชนะแห่งความหวัง ยุงเกอร์ได้กำหนดวิสัยทัศน์ที่ละเลยซึ่งปัญหาขั้นพื้นฐานบางประการ ปัญหาที่ถูกละเลยและรุนแรงที่สุดก็คือ เรื่องการเบี่ยงเบนของลัทธิประชานิยมและชาตินิยม
นายเมอร์ริทยังได้ย้ำในระหว่างการเลือกตั้งที่ได้มีการจัดขึ้นในปีนี้ว่า กลุ่มผู้มีสิทธิลงคะแนนเสียงของ EU จำนวนมากถูกล่อลวงด้วยแนวทางการแก้ปัญหาแบบง่ายๆจากพรรคที่ชูนโยบายประชานิยมที่อยู่เหนือคลื่นหรือกระแสแห่งระยะทางที่ห่างไกลกันยิ่งขึ้นของสถาบันต่างๆของ EU และประชาชนทั่วไป
โครงการต่างๆของ EU ที่ไม่ได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้นในหมู่ประชาชนทั่วไปนั้น ยังมีสาเหตุมาจากความรู้สึกที่ว่า การตัดสินใจในเรื่องสำคัญๆของ EU ที่มีต่อการผนวกรวมกันนั้นเป็นเรื่องไกลตัวเกินไป และชี้ว่า EU ควรจะเปิดทางให้ประเทศสมาชิกได้มีบทบาทมากยิ่งขึ้น
นายเมอร์ริท กล่าวว่า ต้นตอของความรู้สึกแตกแยกนั้น เกิดขึ้นทั้งในสเปน เบลเยียม เราเองยังจำเป็นต้องอยู่ในภาวะที่สามารถแข่งขันได้และยิ่งใหญ่ต่อไปในระดับเวทีโลก แต่เราก็จำเป็นต้องยกเลิกลัทธิการรวมศูนย์ของ EU ในบางประเด็นด้วยเช่นกัน
เมอร์ริท กล่าวว่า การวาดภาพที่สวยหรูนั้น ไม่ใช่สิ่งที่เป็นประโยชน์แต่อย่างใด ผู้นำทั้งหมดของ EU ควรจะเริ่มบอกกล่าวกับประชาชนได้แล้วถึงสิ่งที่สวนทางกันกับแนวทางแก้ปัญหาแบบง่ายๆที่เป็นไปไม่ได้จากพรรคที่นิยมลัทธิประชานิยม
โดย แกรนเดสโซ เฟเดริโก, เจิ้ง เจียงฮัว
สำนักข่าวซินหัวรายงาน