บ็อบ ฮัฟฟ์ ซีอีโอของ บริษัท ฮัฟฟ์ สตราทิจีส์ จำกัด ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซินหัวว่า "ถ้าจีนสามารถดำเนินการตามแนวทางการปฏิรูปฉบับล่าสุดของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนได้ ผมเชื่อว่าเราจะได้ร่วมยินดีไปกับความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับจีนที่ดีขึ้นและยาวนานยิ่งขึ้น"
ฮัฟฟ์ เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการเมืองกล่าว ซึ่งให้สัมภาษณ์พิเศษหลังการประชุมแผนงานเศรษฐกิจส่วนกลางประจำปีของจีนที่จัดขึ้นเมื่อวันพุธถึงวันศุกร์ที่ผ่านมาที่กรุงปักกิ่ง ระหว่างการประชุม ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้ทบทวนงานด้านเศรษฐกิจของประเทศในปี 2561 วิเคราะห์สถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบัน และจัดวางแผนเศรษฐกิจในปีหน้า
ฮัฟฟ์ ซึ่งเป็นอดีตวุฒิสภารัฐแคลิฟอร์เนียระหว่างปี 2551 ถึงปี 2559 กล่าวว่า การทบทวนผลการดำเนินงานจริงที่เกิดขึ้นจากนโยบายในประเทศและต่างประเทศเป็นระยะๆนั้น เป็นผลดีและยังเป็นขั้นตอนที่สำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อจีนได้รับผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมอย่างมากในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา เมื่อจีนได้เปลี่ยนแปลงจากเศรษฐกิจแบบเกษตรสู่ประเทศที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจเป็นอันดับ 2 ของโลก
ฮัฟฟ์กล่าวว่า "ผมขอยกย่องจีน เมื่อได้พิจารณาเศรษฐกิจของจีน สภาพทั่วโลก และการลงมือทำที่ถูกต้อง เพื่อปรับแก้ความไม่สมดุลในบางเรื่อง ช่วงที่เศรษฐกิจของจีนชะลอตัวลง นับเป็นเรื่องปกติและเป็นเรื่องดีที่จะทำการแก้ไขในระดับกลาง เพื่อมุ่งเน้นการเติบโตไปในทิศทางที่จะให้ประโยชน์สูงสุดกับประชาชน ประเทศชาติ และเศรษฐกิจโลก"
ฮัฟฟ์ ให้ความสนใจกับนโยบายใหม่ของจีนที่เปลี่ยนแรงกดดันด้านการพัฒนาในปัจจุบันให้เป็นแรงผลักดันเพื่อการพัฒนาที่มีคุณภาพสูง รวมถึงการเร่งการเพิ่มประสิทธิภาพให้เหมาะสม การปรับปรุงโครงสร้างเศรษฐกิจ เสริมความสามารถด้านนวัตกรรมเทคโนโลยี และปฏิรูปอย่างลึกซึ้งและเปิดกว้าง
ผู้เชี่ยวชาญด้านการเมืองรายนี้ยังได้ยกย่องแผนการของจีนในการมุ่งส่งเสริมธุรกิจใหม่และเทคโนโลยีขั้นสูง เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศและเศรษฐกิจของแคลิฟอร์เนีย
"การสนับสนุนธุรกิจที่มีมูลค่าสูงด้วยการลดหย่อนภาษีหรือผ่อนคลายกฎระเบียบลง จะช่วยให้อุตสาหกรรมต่างๆของจีนสามารถบ่มเพาะนวัตกรรมเพิ่มมากขึ้น ตลอดจนผลผลิตที่ยั่งยืนและมีมูลค่าสูงยิ่งขึ้น" นายฮัฟฟ์ ระบุ "โดยทั่วไปแล้ว นวัตกรรมที่ไม่ใช่ธุรกิจมักเป็นหัวใจสำคัญของประสิทธิภาพและมูลค่าที่สูงขึ้น"
นายฮัฟฟ์ ผู้นำเสียงข้างน้อยในวุฒิสภาของรัฐแคลิฟอร์เนียและผู้นำพรรครีพับลิกันในวุฒิสภาระห่างปี 2555 ถีงปี 2558 เปิดเผยว่า แคลิฟอร์เนียได้รับผลประโยชน์อย่างมากจากการค้าแปซิฟิก ริม โดยเฉพาะจากจีน เนื่องจากจีนเป็นประเทศคู่ค้าอันดับหนึ่งของรัฐ แต่รัฐได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ที่ย่ำแย่ของการค้าระดับทวิภาคี เพราะแคลิฟอร์เนียเป็นประตูสู่สหรัฐสำหรับสินค้าจีนส่วนใหญ่
เขาเสริมต่อว่า ในบรรดาอุตสาหกรรมทั้งหมด อุตสาหกรรมโลจิสติกส์ในแคลิฟอร์เนียได้รับผลกระทบอย่างหนักเมื่อการค้าระดับทวิภาคีถดถอยสืบเนื่องมาจากข้อพิพาทระหว่างสรัฐและจีน โดยอุตสาหกรรมดังกล่าวประกอบด้วยท่าเรือที่มีศักยภาพสูงกว่า 5 แห่ง เส้นทางรถไฟข้ามทวีป 4 แห่ง โกดังและทางหลวงที่ไม่จำกัดความเร็ว
"ในฐานะอดีตสมาชิกวุฒิสภาของรัฐที่ยังคงส่งเสริมแคลิฟอร์เนียและผลิตภัณฑ์ ผมหวังจะได้เห็นสหรัฐและจีนทำงานร่วมกันเพื่อยุติความคิดเห็นที่แตกต่างทางการค้า แคลิฟอร์เนียมีสินค้าไฮเทคและสินค้าเกษตรกรรมมากมายซึ่งรอคอยที่จะวางจำหน่ายในตลาดจีน เช่นเดียวกับภูมิภาคอื่นของสหรัฐ" นายฮัฟฟ์ กล่าว
"ผมเดินทางไปยังประเทศจีนบ่อยครั้งและตั้งตารอคอยที่จะทานเนื้อวัวจากสหรัฐเพิ่มมากขึ้น พร้อมกับข้าวจากภาคใต้และดื่มด่ำกับไวน์จากแคลิฟอร์เนีย" เขาสรุป