นายราอูล โอชาว นักเศรษฐศาสตร์ของอาร์เจนตินากล่าวในการให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซินหัวว่า การที่สหรัฐเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนเพิ่มขึ้นนั้น มีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่มูลค่าทั่วโลก
นายโอชาว ที่ปรึกษาของสภาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของอาร์เจนตินากล่าวว่า สิ่งที่พวกเขาจะไม่ทำก็คือ การแก้ไขยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐ ขณะที่สหรัฐเรียกร้องให้พวกเขาดำเนินการเช่นนั้น
ภายใต้นโยบาย "อเมริกาต้องมาก่อน" นั้น สหรัฐได้กำหนดภาษีนำเข้าหลายพันล้านดอลลาร์จากผลิตภัณฑ์ของหุ้นส่วนการค้ารายใหญ่ รวมถึงสหภาพยุโรป (EU) และจีน โดยส่งผลกระทบต่อพื้นฐานของระบบการค้าโลก
ในความขัดแย้งล่าสุดกับจีนนั้น สหรัฐได้เพิ่มภาษีนำเข้าสินค้าจีนมูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์จาก 10% เป็น 25% เมื่อต้นเดือนนี้ และขู่ที่จะปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนเพิ่มขึ้นอีก
นายโอชาวกล่าวว่า "การเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อตลาดระหว่างประเทศ เนื่องจากเรากำลังพูดถึงสองประเทศที่มีการค้าทั่วโลกขนาดใหญ่ที่สุด"
เขากล่าวว่า "ห่วงโซ่มูลค่าจะมีราคาแพงขึ้น" โดยย้ำว่า หากสองประเทศล้มเหลวในการบรรลุข้อตกลงการค้า ระบบการค้าพหุภาคีทั้งหมดอาจจะเผชิญความเสี่ยง
นายโอชาวระบุว่า "โดยทั่วไปแล้ว การเก็บภาษีนำเข้าจะบดบังแนวโน้มเศรษฐกิจโลก เนื่องจาก สถานการณ์แบบนี้ คุณจะรู้ว่ามันเริ่มที่ใด แต่จะไม่รู้ว่าจะสิ้นสุดที่ใด" "ความเป็นจริงก็คือ สถานการณ์นี้ จะเพิ่มความไม่แน่นอนมากขึ้นให้กับสถานการณ์ระหว่างประเทศที่ซับซ้อน"
เขากล่าวว่า ขณะที่สหรัฐอ้างว่าจะจ่ายเงินที่ได้จากการเก็บภาษีในด้านต่างๆเพื่อช่วยเหลือชาวอเมริกันนั้น การสั่งเก็บภาษีนำเข้าก็เป็นมาตรการที่จะส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคสหรัฐ ซึ่งจะต้องจ่ายเงินมากขึ้นสำหรับการซื้อขายสินค้าที่หลากหลาย
นายโอชาวระบุว่า ในความเป็นจริง การเก็บภาษีจะทำให้ราคาสินค้าสูงขึ้นสำหรับผู้บริโภคชาวอเมริกัน นอกเหนือจากความเป็นไปได้ที่รัฐบาลจีนจะทำการตอบโต้
นอกจากนี้ นายโอชาวกล่าวว่า ทำเนียบขาวมีทางเลือกอื่นๆ หากต้องการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจในประเทศอย่างแท้จริง โดยไม่ให้ส่งผลกระทบต่อระบบการค้าพหุภาคี