นายจอห์น ฟาเคียนาคิส หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของศูนย์วิจัยอ่าวของซาอุดีอาระเบียเปิดเผยในการให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซินหัวว่า การประชุมซัมมิตของกลุ่ม G20 ที่เมืองโอซากา ประเทศญี่ปุ่นในระหว่างวันที่ 28-29 มิ.ย.นั้น จะเปิดโอกาสให้กับบรรดาผู้นำทั่วโลกแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในเชิงลึก และผลักดันการแก้ปัญหาด้วยนโยบาย
นายฟาเคียนาคิส กล่าวว่า "ขณะนี้โลกอยู่ในจุดเปลี่ยนผ่าน ซึ่งการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกกำลังชะลอตัวลง เช่นเดียวกับการคาดการณ์สำหรับประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจจำนวนมากในโลก"
นายฟาเคียนาคิสเชื่อว่า การประชุมซัมมิตของกลุ่ม G20 ในปีนี้ จะเป็นการประชุมที่สำคัญสำหรับความร่วมมือระหว่างประเทศ
"ผมหวังว่า การประชุมซัมมิต G20 จะสามารถบรรลุฉันทามติในเรื่องคำแนะนำที่เกี่ยวกับนโยบายในการหลีกเลี่ยงภาวะชะลอตัวทางเศรษฐกิจ รวมถึงความขัดแย้งทางการค้าที่ขยายวงมากขึ้น"
นายฟาเคียนาคิสกล่าวว่า ความขัดแย้งทางการค้าที่เพิ่มขึ้นระหว่างสหรัฐและจีนอาจส่งผลกระทบเชิงลบอย่างมากต่อเศรษฐกิจโลก หากสงครามการค้าที่แท้จริงเกิดขึ้นระหว่างสหรัฐและจีน ก็จะส่งผลให้เศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่มีความวิตกกังวลอยู่แล้วเกี่ยวกับการขยายตัวของเศรษฐกิจในอนาคต
นายฟาเคียนาคิสคาดหวังว่า ผู้นำของสหรัฐและจีนจะสามารถพบปะกันระหว่างการประชุมกลุ่ม G20 และแลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับแนวโน้มของเศรษฐกิจโลก ซึ่งมีความสำคัญอย่างมาก และอาจเป็นการส่งสัญญาณในเชิงบวก เพราะไม่มีใครต้องการที่จะเห็นการต่อสู้ระหว่างสองประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่
นายฟาเคียนาคิสกล่าวเสริมว่า สหรัฐและจีนควรหาทางแก้ไขความขัดแย้งผ่านการเจรจาบนพื้นฐานที่เท่าเทียมกัน ลดความวิตกด้านกฎหมายของแต่ละฝ่าย และผลักดันการส่งเสริมให้เกิดการขยายตัวทางเศรษฐกิจทั่วโลกร่วมกัน
นายฟาเคียนาคิสกล่าวว่า เนื่องจากจีนเป็นประเทศที่มีบทบาทสำคัญด้านเศรษฐกิจและมีอิธิพลทางการเมืองในเวทีโลก "จีนได้พยายามที่จะดำเนินการอย่างดีที่สุดในการมีบทบาทมากขึ้นในการส่งเสริมการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก ผมหวังที่จะเห็นโครงการที่มีความหมายและมีประโยชน์มากขึ้นภายใต้โครงการ Belt and Road Initiative ซึ่งมีความสำคัญสำหรับการส่งเสริมการพัฒนาของประเทศกำลังพัฒนาจำนวนมาก"
นายฟาเคียนาคิสระบุถึงความสำเร็จของจีนในการช่วยให้ประชาชนกว่า 700 ล้านคนหลุดพ้นจากความยากจนภายในระยะเวลาอันสั้น นับตั้งแต่ที่เปิดเสรีและการปฏิรูปท่ามกลางประชากรกว่า 1.3 พันล้านคน
เขากล่าวว่า จีนประสบความสำเร็จและดำเนินการได้อย่างน่าประทับใจ และควรเป็นบทเรียนสำหรับประเทศอื่นๆ
สำหรับคำถามเกี่ยวกับบทบาทของซาอุดีอาระเบียใน G20 นั้น นายฟาเคียนาคิสชี้ว่า ซาอุดีอาระเบียสามารถเป็นตัวแทนของประเทศอาหรับในกลุ่ม G20
นายฟาเคียนาคิสกล่าวว่า ซาอุดีอาระเบียได้ดำเนินการปฎิรูปในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาภายใต้โครงการวิสัยทัศน์ของซาอุดีอาระเบียปี 2573 เพื่อส่งเสริมความหลากหลายทางเศรษฐกิจ และการปฏิรูปเหล่านี้มีความจำเป็นอย่างมาก และยังสามารถเป็นตัวอย่างสำหรับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค
"หากซาอุดีอาระเบียประสบความสำเร็จในการเพิ่มความหลากหลายทางเศรษฐกิจ เรื่องราวของซาอุดีอาระเบียก็จะเป็นแรงบันดาลใจ ไม่เพียงแต่สำหรับซาอุดีอาระเบียเอง แต่ยังรวมถึงกลุ่ม G20 และประเทศอื่นๆ ที่พึ่งพาการใช้น้ำมัน โดยความสำเร็จของซาอุดีอาระเบียจะช่วยเพิ่มความหวัง และขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่พึ่งพาทรัพยากรธรรมชาติเพื่อพัฒนาและเพิ่มความหลากหลาย" นายฟาเคียนาคิสกล่าว